ในปี 2567 การส่งออกจีนขยายตัวแข็งแกร่ง ขณะที่การนำเข้าเติบโตขึ้นเล็กน้อยหนุนให้ทั้งปี 2567 จีนมียอดเกินดุลการค้าที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปัจจัยสนับสนุน มีดังนี้

  1. ปัจจัยฐานที่ต่ำ   
  2. ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 การส่งออกจีนไปตลาดหลักเร่งตัวขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่
  3. มูลค่าการส่งออกรถยนต์และแผงวงจรรวม (IC) ขยายตัวในระดับสูง  

ในปี 2568 สงครามการค้ารอบใหม่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางการเติบโตของการส่งออกจีน โดยล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าจะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนที่ 10% แต่ยังไม่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้ารวมถึงช่วงเวลาที่จะเริ่มจัดเก็บภาษี โดยเบื้องต้นคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะนำพระราชบัญญัติอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA) เข้ามาบังคับใช้ ซึ่งหลังลงนามคำสั่งแล้วคาดต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 2-4 เดือนเพื่อเปิดทางให้มีการเจรจาก่อนจะมีผลบังคับใช้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าผลสุทธิจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จะทำให้การส่งออกจีนปี 2568 ชะลอลงจากปี 2567 แต่ยังเติบโตได้ที่ประมาณ 3% โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 การส่งออกจะยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นจากการเร่งส่งออกไปตลาดหลักโดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็น 15% ของการส่งออกรวม และในช่วงครึ่งปีหลังการส่งออกจะเริ่มชะลอลงจากผลของการขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ และปัจจัยด้านฐาน

  • ทั้งนี้ ติดตามพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. 2568 นี้ ซึ่งคาดว่าทางสหรัฐฯ จะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าจากจีน