การเคหะฯ เดินหน้าพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 57 จำนวน 38 โครงการ 1.6 หมื่นกว่าหน่วย ให้สอดคล้องความต้องการลูกค้า ป้องกันอาคารเหลือ เปิดขายลอตแรก 16 โครงการ ปลาย ก.ย.นี้ เน้นกลยุทธ์ขายตรง เร่งปิดการขาย...

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติได้จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2557 - 2560 ภายใต้แผนพลิกฟื้นองค์กรของการเคหะแห่งชาติ รวมทั้งสิ้น 96 โครงการ จำนวน 49,769 หน่วย โดยจะนำที่ดินที่อยู่ในทำเลดี มีศักยภาพสูงทางการตลาด มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน พร้อมระบบสาธาณูปโภค สาธารณูปการ และองค์ประกอบชุมชนที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังได้ทำการสำรวจตลาดและความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อกำหนดรูปแบบโครงการและอาคารที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับความต้องการ และความสามารถรับภาระของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยจะดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้ความเห็นชอบในหลักการกรอบแผนการลงทุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยดังกล่าว วงเงินลงทุนรวม 34,198.475 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินอุดหนุนจากรัฐบาล จำนวน 3,867.512 ล้านบาท เงินกู้ภายในประเทศ จำนวน 25,934.913 ล้านบาท และเงินรายได้ของ กคช. จำนวน 4,396.050 ล้านบาท พร้อมยังได้อนุมัติแผนการลงทุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2557 จำนวน 38 โครงการ รวมทั้งสิ้น 16,146 หน่วย กรอบวงเงินลงทุนรวม 9,577.752 
ล้านบาท ประกอบด้วย เงินอุดหนุนจำนวน 1,249.958 ล้านบาท เงินกู้ภายในประเทศ จำนวน 7,113.570 ล้านบาท และเงินรายได้ของการเคหะแห่งชาติ จำนวน 1,214.224 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานด้านการก่อสร้างและการตลาด จะพัฒนาโครงการฯ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2558 หรือประมาณต้นเดือน ม.ค. 2558 แบ่งโครงการฯ ออกเป็น 2 ประเภท คือ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน รายได้น้อยถึงปานกลาง จำนวน 25 โครงการ รวมทั้งสิ้น 14,773 หน่วย ประกอบด้วย บางขุนเทียน 3 ระยะที่ 1, สมุทรปราการ (เทพารักษ์ 3) ระยะที่ 3 ส่วนที่ 1, นนทบุรี (วัดกู้ 3), พะเยา, เชียงใหม่ (หนองหาร) ระยะที่ 1, เชียงใหม่ (สันผีเสื้อ), เชียงใหม่ (ไนท์ซาฟารี) ระยะที่ 1, กระบี่ (กระบี่น้อย), ภูเก็ต (ถลาง)

ระยะที่ 2, จันทุบรี ระยะที่ 3, นครราชสีมา (ปากช่อง 2), ลาดกระบัง 2 ระยะที่ 3/1, ลาดกระบัง 2 ระยะที่ 3/2, รังสิต คลอง 10/1, รังสิต คลอง 10/2, ตลาดไท (เทพกุญชร 34) ระยะที่ 2 ส่วนที่ 1, สมุทรปราการ (ประชาอุทิศ), ลำปาง (ต้นธงชัย), พิษณุโลก (บึงพระ 2), ชลบุรี (นาเกลือ) ระยะที่ 2, ชลบุรี (กุฎโง้ง), อุดรธานี (หนองสำโรง), หนองคาย (แยกเวียงจันทน์), ศรีสะเกษ (โพนข่า) ระยะที่ 1 ส่วนที่ 2 และสงขลา (หาดใหญ่-ลพบุรีราเมศวร์) ลักษณะอาคาร ได้แก่ อาคารชุดสูง 3-5 ชั้น ขนาดห้องประมาณ 33 ตารางเมตร, บ้านเดี่ยว 2 ชั้น และบ้านแฝด 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 21-24 ตารางวา และทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 16 ตารางวา

อีกประเภทหนึ่งคือ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน หารายได้ จำนวน 13 โครงการ รวมทั้งสิ้น 1,373 หน่วย ประกอบด้วย ร่มเกล้า ระยะที่ 10 พาร์ควิลล์ ร่มเกล้า, บ้านศรีนวมินทร์ 2, บางพลี ทาวน์โฮม, อยุธยา (โรจนะ), นครสวรรค์ นิวมาร์ท, ชลบุรี (นาจอมเทียน) ภูเก็ต 2, บางโฉลง ทาวน์โฮม, เชียงใหม่ (ดอยสะเก็ด), เพชรบูรณ์ ระยะที่ 1, ศรีสะเกษ (โพนข่า) ระยะที่ 1 ส่วนที่ 1, นครศรีธรรมราช (อ้อมค่าย) และภูเก็ต (เทพกระษัตรี) ลักษณะอาคาร ได้แก่ บ้านเดี่ยวชั้นเดียว, บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 31-50 ตารางวา, อาคารพาณิชย์ 2.5 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 22.5 ตารางวา, อาคารพาณิชย์ 3-3.5 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 18-42 ตารางวา, ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 24-54 ตารางวา และอาคารชุด 7 ชั้น ขนาดห้องประมาณ 40-50 ตารางเมตร

นอกจากนี้ ได้มีมาตรการขายก่อนก่อสร้างโครงการ โดยคำนึงถึงความต้องการแท้จริงของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ และต้องมียอดขายไม่ต่ำกว่า 50% จึงจะดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งการจัดทำโครงการการเคหะแห่งชาติพิจารณาแบ่งส่วนการดำเนินการก่อสร้างและขายแต่ละโครงการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอาคารคงเหลือ โดยกำหนดระยะเวลาการขายแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงแรกจะดำเนินการขายจำนวน 16 โครงการ รวมทั้งสิ้น 6,103 หน่วย ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. - 6 ต.ค. 2557 ช่วงที่ 2 จะดำเนินการขายจำนวน 17 โครงการ รวมทั้งสิ้น 6,515 หน่วย ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.- 2 พ.ย. 2557 และช่วงที่ 3 จะดำเนินการขายจำนวน 5 โครงการ รวมทั้งสิ้น 3,528 หน่วย ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. - 30 พ.ย. 2557

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้จัดงานมหกรรมบ้านและเคหะแฟร์ 2014 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจซื้อโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ลงชื่อแสดงความจำนงไว้ ซึ่งขณะนี้มียอดผู้สนใจกว่า 3,000 ราย โดยมีวิธีการขายแบบขายตรง มีการติดต่อกลับไปหาลูกค้า เพื่อยืนยันความต้องการอีกครั้ง ก่อนเรียกทำสัญญากับการเคหะแห่งชาติ ซึ่งเป็นการปิดการขายโครงการได้เร็วขึ้น และไม่ให้เกิดปัญหาอาคารคงเหลือ.

ขอบคุณข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมได้ที่ : www.TerraBKK.com

Facebook : TerraBKK Facebook

Google+ : TerraBKK Google+

Twitter : TerraBKK Twitter