บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดแผนธุรกิจอย่างเป็นทางการ เตรียมทุ่มงบ 100,000 ล้านบาทตลอด 5 ปีข้างหน้า (2558-2562) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในทุกรูปแบบ ทั้งธุรกิจโรงแรม ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และธุรกิจค้าปลีกเชิงพาณิชย์ชูนโยบาย Best in Class สร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุด พร้อมหาพันธมิตรหวังเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยื่น นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทสิงห์ เอกสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ทำการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “S” จากความเชื่อมั่นที่สิงห์ เอสเตท ได้รับ ปรากฎว่า ทำให้ราคาหลักทรัพย์พุ่ฝขึ้นเกือบ 360% (เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2557 รสาฯ ได้แจ้งในที่ประชุมวิสามัญ ผู้ถือหุ้นให้กลุ่มบุญรอดบริวเวอร์รี่ร่วมทุน) ถึงแม้ว่าผลประกอบการของบริษัทฯ ยังเป็นตัวเลขที่ติดลบ ณ ปัจจุบัน ก็ตามเพราะเพิ่งเป็นช่วงแรกที่บริษัทฯ เข้าบริหาร ซึ่ง สิงห์ เอสเตท มั่นใจว่า แผนงานที่วางไว้ จะทำให้ตัวเลขกลับมาเป็นผลกำไรในช่วงปีหน้าอย่างแน่นอน
โดยสิงห์มีแผนดำเนินธุรกิจทั้งแนวราบ และแนวสูง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความแตกต่าง สร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น ด้วยเงินลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปี ข้างหน้า ซึ่งมีทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรม บ้านเดี่ยว อาคารสานักงาน โรงแรม คอนโด สำหรับธุรกิจที่เล็งจะลงทุน โดยจะเริ่มก่อสร้างในปีหน้า ได้แก่ โครงการสิงห์ คอมแพล็กซ์ มีขนาดพื้นที่ 11-1-24 ไร่ ที่อโศก-เพชรบุรี เป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่มีทั้งอาคาร สำนักงาน คอนเวนชั่นฮอล์ โรงแรม และพื้นที่สำหรับค้าปลีก ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างพัฒนาแบบ และการยื่นขอ EIA โดยโครงการนี้ จะเปิดตัวในปีหน้า โดยการก่อสร้าง Singha Complex ใช้เวลา 3 ปี ซึ่งตัวอาคารจะมีทั้งในส่วนของ Boutique Hotel, Condominium, Office, Concert Ha ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกเชิงพาณิชย์ จะมุ่งเน้นไปที่ไลฟ์สไตล์มอลล์ โดยสิงห์ มีการวางแผนดำเนินธุรกิจที่กรุงเทพฯ หัวหิน ขอนแก่น และโคราช ส่วนโรงแรมสันติบุรี สมุย ขณะนี้ กำลังปรับปรุงใหม่ เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเร็วๆนี้

Singha Estate วางแผนว่าลงทุน 100,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า

  • ลงมือทั้งแนวราบและแนวสูง โดยสร้างความแตกต่าง สร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นและแม้กระทั้งลูกค้าของสิงห์เอง

Business

  • โฟกัสในธุรกิจโรงแรม บ้านเดี่ยว อาคารสานักงาน โรงแรม คอนโด
  • Core Business (100,000 ล้านบาท)
    • Hotel 30,000 ลบ.
    • Residential 20,000-30,000 ลบ.
    • Industrial 20,000 ลบ.
    • Office 20,000 ลบ.

แนวคิด

  • ต่อยอดธุรกิจจากฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง ชื่อเสียงอันยาวนานของกลุ่มบุญรอด
  • ต้องมีพันธมิตรที่หลากหลาย ในเครือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน และพันธมิตรที่เติบโตไปด้วยกัน พันธมิตร = Agency ทุกคนมีการสะสมความมั่งคั่งจากการทำธุรกิจกับสิงห์ในอดีตซึ่งสะสมอยู่ในมือของ Agent

แผนการเติบโต (Growth)

  • เข้าไปร่วมทุน 2-3 รายต่อปี การเป็นพันธมิตรระยะยาว เราจะเสริม เงินทุน เครือข่าย ที่อยู่ทั่วทุกมุม ทำให้เกิด synergy จากการอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ทำให้ 1+1= 6 ไม่ใช่เท่ากับ 2
  • From Good to "Great"
  • ยอดขายโตเกือบๆ 50% ต่อปี รวมแล้วยอดขายอีก 5 ปี 20,000 ล้าน
  • รายได้ Passive 50% Active 50%
  • ถ้าจะทำศูนย์การค้า เราจะทำเป็น Mixed-used รวมระหว่าง Mall & Residential
  • เติบโตรวดเร็วโดยทำ M&A ในปี 2015-2017 (ต้องอาศัยการควบรวมช่วยเพื่อทำให้โตเร็วในช่วงแรก) + พัฒนาแล้วขาย สร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น
  • จากนั้น 2018 จะเริ่มมีรายได้หลักเข้ามาจาก Condo บ้าน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับ Business Cycle ด้วย

ช่องทางเงินทุน

  • ช่วงปีแรกยังไม่เพิ่มทุนก่อน
  • กู้ยืม
  • ระดมทุนโดยการออก REIT ขั้นต่ำ 10,000 ล้านบาทต่อกอง
  • พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย

Future Project

  • การก่อสร้าง Singha Complex ใช้เวลา 3 ปี มี Boutique Hotel, Condominium, Office, Concert Hall
    • พื้นที่ 11 ไร่ บริเวณหัวมุม สี่แยกเพชรบุรี-อโศก
    • Office 100,000 sq.m. leasable area 40,000 sq.m. 36 ชั้น
    • Retail leasable area 3,000 sq.m.
    • Grade A
    • โครงการแบ่งเป็น ให้เช่า 3/4 ของทั้งหมด ใช้เอง 1/4 ของทั้งหมด
    • Boutique Hotel 22 ห้อง อยู่ชั้น 7,8,9 สามารถเปิดใช้ได้ใน ปี 2017
  • นิคมอุตสาหกรรม
  • Mall เราคิดว่าจะมีการร่วมทุนในทำเลใดทำเลหนึ่งในบางทำเล
  • มีการเจรจาจบไปแล้ว 2 ราย
    • เข้าไปซื้อโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยว 3,000 ล้านบาท (Santiburi Beach Resort and Spa : โรงแรมสันติบุรี รีโนเวท 500 ล้าน)
    • ร่วมมือกับ บริษัททาบ้านแนวราบ ไปแล้ว มูลค่า 3,000ล้านบาท
  • ปัจจุบัน เจรากันอยู่อีก 2-3 ราย
  • วันนี้รวมมี 4 ดีล 20,000 ล้าน (นอกตลาด) ดีลต่างประเทศที่พม่า 2 ดีล
  • โรงแรม 4 ดาว กำลังคิดว่าจะ ดึงเข้ามา หรือสร้างแบรนด์ใหม่ดี
  • จะเห็นในต้นปีหน้า สิงห์เป็นแกนนำหลักในการร่วมติดต่อกับธุรกิจในพม่า จะเป็นการร่วมนักธุรกิจท้องถิ่น (Local Brand) ในพม่าทั้งหมด มีเจรจาหลายที่ หลายเมืองในพม่า
  • ถ้าจะทำศูนย์การค้า เราจะทำเป็น Mixed-used รวมระหว่าง Mall และ Residential

รายได้

  • ปีหน้ารายได้ 2,000 กว่าล้านบาท เป็นปีแรกของการดำเนินงาน เกิดจากการทำ M&A และการซื้อสินทรัพย์
  • สินทรัพย์คาดว่าจะโตถึง 100,000 ล้านบาท เว้นแต่จะ Recycle ของเก่าออกไป ผ่านการขายทิ้งเอาเงินมาหมุนใหม่
  • 3 ปีแรกซื้อกิจการ เกินครึ่งมาจาก M&A จากแสนล้าน การเลือก M&A ต้องเป็นธุรกิจที่มี่รายได้อยู่แล้ว มี backlog มีความเป็นไปได้ที่ขายเข้า REIT ได้
  • คร่าวๆ ตอนนี้แหล่งรายได้ ปีหน้า
    • Condo
    • Singha complex
    • หมู่บ้านเรียบทางด่วน เรียบทางด่วน 30 กว่าไร่ จำนวนไม่ถึง 20 หลัง หลังละ 100 ล้านขึ้นไป
    • 5 ปี 7-8 แห่ง (Hotel)

Idol

  • อยากเป็นเหมือน Capital Land ที่สิงค์โปร์

Target Customer

  • เราจับกลุ่มท่องเที่ยวเป็นหลัก กลุ่มลูกค้า กลางบน-บน

Target Performance

  • Top5 ใน 4 ปี แต่ Mkt cap. ติด Top5
  • IRR ขั้นต่า 15%