เดินหน้าตั้งกองทุนอินฟราฟันด์ ท่าอากาศยาน-ทางหลวงนำร่อง "ก.ล.ต." เพิ่มลูกเล่นดึงลูกค้าใหม่

คมนาคมเตรียมพบ ก.ล.ต.หารือตั้งกองทุนอินฟราฟันด์ในปี"58 เริ่มจาก 2 กองทุนท่าอากาศยานและทางหลวง ก.ล.ต.เผยหารือร่วม ธปท.ขอซื้อขายหลักทรัพย์สกุลเงินอื่น พร้อมคุยคลังขยายเวลาพิจารณาการออกตราสารหนี้สกุลเงินบาท เจาะตลาดใหม่ลุ่มน้ำโขง

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ติดต่อขอหารือการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อระดมทุนก่อสร้างระบบคมนาคมขนส่งของไทย โดยนำหน่วยงานที่กระทรวงคมนาคมดูแล เช่น ท่าอากาศยาน กรมทางหลวง และรถไฟฟ้ามหานคร ในสัปดาห์หน้า คาดว่าในปี 2558 จะเห็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2 กอง ได้แก่ กองทุนที่ลงทุนในท่าอากาศยานและทางหลวง มูลค่าประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาทต่อกอง ส่วนความคืบหน้าด้านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คาดว่าจะเปิดขายปลายเดือนธันวาคม 2557 หรือเดือนมกราคม 2558

นายวรพลกล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ให้ประเทศไทยเป็นสำนักงานข้ามประเทศนั้น เป็นผลดีต่อการออกทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และการออกกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภาครัฐและเอกชนสามารถระดมทุนได้เร็วและดีกว่าการให้เอกชนร่วมลงทุน หรือรัฐลงทุนเอง เมื่อเกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานย่อมเกิดการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตมากขึ้น ส่วนการพิจารณามาตรการควบคุมหุ้นร้อนจะเสนอให้บอร์ดพิจารณาในสัปดาห์หน้า ส่วนการบังคับใช้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของบริษัทหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เร็วที่สุดภายในเดือนธันวาคม

นายวรพลกล่าวว่า กลยุทธ์ในปี 2558 จะต่อเนื่องจากปีนี้ โดยจะพัฒนา 6 ด้าน ได้แก่ 1.ยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 2.เพิ่มประสิทธิภาพการป้องปรามและบังคับใช้กฎหมาย ที่มีบทลงโทษที่เหมาะสม 3.สร้างสินค้าทางการเงินที่หลากหลายดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก 4.เปิดช่องทางให้กิจการทุกประเภทและทุกขนาดสามารถเข้าถึงทุนในรูปแบบที่เหมาะสม 5.พัฒนาให้ประชาชนมีความรู้ทางการเงินและใช้ประโยชน์จากตลาดทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ 6.เพิ่มประสิทธิภาพของ ก.ล.ต.เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

นางทิพยสุดา ถาวรามร รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า เพื่อเพิ่มความสนใจให้ตลาดหุ้นไทย ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้นักลงทุนต่างประเทศสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ไทยด้วยสกุลเงินต่างประเทศผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เรื่องดังกล่าว ก.ล.ต.ได้พยายามผลักดันมากกว่า 2 ปี ขณะที่ ธปท.อยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขกฎหมาย นอกจากนี้ ได้หารือกับกระทรวงการคลังให้เพิ่มช่วงเวลาการอนุมัติ การระดมทุนของต่างประเทศในรูปแบบตราสารหนี้เป็นสกุลเงินบาท (บาทบอนด์) จากเดิมปีละ 3 ครั้ง เป็นพิจารณาตามความสะดวกของผู้ที่จะระดมทุน เพื่อกันไม่ให้ประเทศเพื่อนบ้านที่จะระดมทุนไปสร้างโครงสร้างพื้นฐาน หรือขยายกิจการไปเลือกใช้ตลาดหลักทรัพย์อื่นแทนตลาดหลักทรัพย์ไทย อีกทั้งเตรียมขยายออกเกณฑ์ ให้กองทุนไทยสามารถลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนอยู่ในประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงได้ 100% จากปัจจุบันแค่ 15%