การหลับพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าคุณจะเดินทางท่องเที่ยวหรือไม่ก็ตาม โดยเฉพาะเมื่อคุณไปยังสถานที่ที่มีอุณหภูมิที่แตกต่าง, เวลาที่แตกต่าง หรือสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง และอยากที่จะหลับพักผ่อนสบายๆ พวกเราปรับตัวให้ชินกับบรรยากาศในการนอน ทั้งอุณหภูมิสูงต่ำ ค่าความชื้น แสงสว่าง ระดับเสียง และเวลาเหมาะสมที่เราจะนอนได้ หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆจากนี้อาจจะเป็นเหตุให้นอนไม่หลับได้เลยทีเดียว เพราะการเปลี่ยนแปลงพวกนี้ทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัวเหมือนกับนาฬิกาของร่างกาย โดยปกติเราจะใช้เวลา 1 วันเพื่อปรับความต่างของเวลาทุกๆชั่วโมง

Credit Pic : dauntlessjaunter.com

เมื่อเดินทางไปยังประเทศที่มีเวลาต่าง / Jet Lag (เจทแล็ก)

1. รับแสงอาทิตย์ยามเช้า - แสงเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับระบบการนอนของร่างกาย ดังนั้นการรับแสงอาทิตย์ยามเช้าจะช่วยให้ร่ายกายคุณปรับตัวได้เร็วขึ้น หรือในทางเดียวกัน พยายามหลีกเลี่ยงแสงจ้าหรือลดให้น้อยลงเมื่อใกล้จะถึงเวลาที่คุณจะนอน

2.บังคับตัวเองไม่ให้หลับ 6 ชั่วโมงก่อนเวลานอน - เมื่อคุณถึงที่หมายคุณอาจจะเหนื่อยมากจนอยากจะหลับแต่มันจะเป็นการดีกว่าที่คุณจะพยายามบังคับให้ตัวเองตื่นให้นานที่สุด มันจะเป็นการช่วยให้ร่างกายคุณปรับเวลาได้เร็วขึ้น ห้ามงีบในช่วงเวลา 6 ชั่วโมงก่อนถึงเวลานอนเชียว

3.ปรับเวลานอน - ช่วงเวลาหลายวันก่อนที่คุณจะเดินทาง พยายามปรับเวลาของคุณให้เข้ากับเวลาของที่หมาย

เมื่อเดินทางไปยังประเทศที่อากาศเย็นกว่า

1.คลุมศรีษะของคุณ - ไม่ว่าคุณจะนอนในทุ่งน้ำแข็งหรือแค่ห้องที่เย็น จงคลุมศรีษะของคุณ ศรีษะเป็นหนึ่งในสองอวัยวะด้านปลายสุดของร่างกายที่ความร้อนสามารถหายไปได้ง่าย (อีกทางหนึ่งคือใส่ถุงเท้า) ใส่หมวกคลุมหัว หรือคลุมหัวส่วนบนของคุณด้วยผ้าก่อนที่จะนอน

2.คลุมเท้าของคุณ - ส่วนเท้าของคุณเป็นอีกส่วนที่ความร้อนจะสามารถหายไปได้ก่อนส่วนอื่นหรือเร็วที่สุด ดูให้แน่ใจว่าคุณใส่ถุงเท้านอน บางคนอาจจะไม่ชอบที่จะใส่ถุงเท้านอน อีกทางหนึ่งก็คือเอาผ้าห่มคลุมเท้า (แต่ส่วนใหญ่แล้วผ้าห่มมันจะหลุดจากเท้าเพราะคุณพลิกตัวไปมาบนที่นอนนั่นเอง)

3.เตรียมแผ่นบุกันร้อน - หากคุณต้องนอนนอกอาคารและบนพื้นที่เย็น เช่นนอนบนดิน คุณควรที่จะนำแผ่นบุกันร้อนมาวางกั้นระหว่างคุณกับพื้นก่อนที่จะนอน

เมื่อเดินทางไปยังประเทศที่ร้อนกว่า

1.ผ้าปูที่นอน - ผ้าปูที่นอนบางๆ ทำจากเส้นใยธรรมชาติจะช่วยดูดซับเหงื่อ และช่วยให้อากาศผ่านได้ดีกว่าเนื้อผ้าอื่นๆ เมื่อเที่ยบกับผ้าไนลอนหรือผ้าขนสัตว์

2.เปิดหน้าต่าง - นี่อาจเป็นเรื่องที่คุณคิดว่าใครๆก็รู้ อย่างไรก็ตามบางทีคนอาจจะลืมไป การเปิดหน้าต่างจะช่วยถ่ายเทลม และช่วยลดความอบอ้าว

3.เปิดม่านบังแดด (!เปิดให้ถูกอัน) - ถ้าห้องที่คุณอยู่มีม่านหรือแผ่นบังแดดรอบห้อง คุณควรเลือกที่จะเปิดมันตามด้านที่แดดไม่ส่องและปิดในด้านที่แดดส่อง มันอาจจะดูลำบากที่จะต้องคอยเปิดปิดในแต่ละด้าน แต่ให้มั่นใจว่ามันดีมากหรือช่วยได้มากเมื่อถึงเวลาที่คุณกำลังจะเข้านอน

4.พัดลมไฟฟ้า - ในบางครั้งพัดลมก็ให้ประโยชน์มากกว่าการเปิดหน้าต่าง ที่พักบางแห่งอาจไม่อนุญาตให้คุณเปิดหน้าต่าง หรือบางที่อาจจะล็อกหน้าต่างเอาไว้ และการเปิดหน้าต่างนั้นบางทีอาจจะทำให้แมลงรำคาญทั้งหลายบินเข้ามาได้ ดังนั้นพัดลมจะช่วยได้มากในกรณีนี้ และช่วยให้อากาศหมุนเวียนด้วย

5.นอนนิ่งๆ - เมื่อคุณนอนบนเตียงพยายามอย่าขยับตัวมากการขยับบ่อยๆนั้น ทำให้ร่างกายปรับตัวเย็ยลงได้ยากมากยิ่งขึ้น

การนอนในพื้นที่ที่อากาศชื้น

อากาศชื้นนั้นทำให้เหงื่อระเหยยากกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวตอนนอน โดยเฉพาะเมื่ออากาศร้อนประกอบด้วย
1.เปิดหน้าต่างทิ้งไว้ก่อน 1 ชม. - อย่างที่ว่าเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่สำหรับพื้นที่ที่อากาศชื่นและร้อน เราแนะนำให้เปิดหน้าต่างทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนที่คุณจะเข้านอน เพื่อให้มีเวลาพอให้อากาศถ่ายเทได้

2.นอนท่าปลาดาว - หากคุณนอนบนพื้นที่ที่มากพอ แนะนำให้นอนท่าปลาดาว คือ แขนและขาแยกออกจากร่างกาย เพราะการนอนท่านี้จะช่วยให้ร่างกายไม่เก็บความร้อนและความชื้นมากเกินไป และช่วยให้ร่างกายปล่อยความร้อนและหลีกเลี่ยงความชื้นได้มากกว่า

การนอนในพื้นที่ที่อากาศแห้ง

ต้องดื่มน้ำ หรือห้ามขาดน้ำ - ในสภาพแวดล้อมที่อากาศแห้ง อย่างเช่นทะเลทราย การดื่มน้ำเพื่อไม่ให้เกิดอาการขาดน้ำ คือหลักการอยู่รอดที่สำคัญที่สุด นอกจากนั้นมันยังช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีอีกด้วย ในสภาวะอากาศแห้งมันมีความเป็นไปได้สูงมากที่คุณจะเกิดอาการขาดน้ำ เพราะคุณเสียน้ำอยู่ตลอดเวลาทั้งผ่านทางการหายใจ อาการขาดน้ำเป็นหนึ่งในสาเหตุให้ตื่นขึ้นมากลางดึกและทำให้คุณไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ด้วย

เดินทางไปยังสถานที่ที่กลางวันยาวกว่ากลางคืน

สร้างบรรยากาศเพิ่มความมืด - ในห้องของคุณ พยายามปิดแสงให้เข้ามาให้น้อยที่สุดและปิดไฟให้หมด แสงมีผลต่อเมลาโตนินที่ช่วยในการนอนหลับ ดังนั้นสถานที่ที่มีกลางวันยาวกว่ากลางคืน เช่นช่วงหน้าร้องของเขต Arctic นั้น จะทำให้คุณหลับลำบากกว่าปกติ

เดินทางไปยังสถานที่ที่กลางคืนยาวกว่ากลางวัน

1.อย่าหลับเร็วเกินไป- การนอนมากเกินไปจะส่งผลต่อสุขภาพของคุณเช่นเดียวกับการพักผ่อนน้อยเกินไป ดังนั้นมันเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะต้องระวังไม่หลับเมื่อสภาพแวดล้อมเริ่มมืดทันที ต้องตื่นตัวและพยายามอยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ ต้องหลอกร่างกายให้ไม่รู้สึกเหนื่อยทันทีที่แสงแดดหายไป แล้วไปนอนในช่วงเวลาดึกจริงๆ และนอนให้เต็มที่ไปเลย

2.คิดบวก - คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในสถานที่ๆกลางคืนยาวกว่ากลางวันมักมีอาการหดหู่ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการพักผ่อนที่ไม่ถูกสุขลักษณะ (Sleepiing Affective Disorder) ดังนั้นคุณต้องทำตัวให้ตื่นตัวโดยการออกกำลังกาย เข้าสังคม และนอนให้เพียงพอและไม่มากเกินไป

เมื่อคุณรู้สึกตื่นตัวเกินกว่าจะนอน มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้สึกนอนไม่หลับ โดยเฉพาะเมื่อเดินทางคุณอาจจะรู้สึกห่วงเรื่องที่ทำงาน เรื่องที่บ้าน หรือคุณแค่อาจจะรู้สึกตื่นเต้นกับการเดินทางที่คุณกำลังจะไป การรู้สึกตื่นตัวเช่นนี้เป็นเหตุที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ ดังนั้น แนะนำเพิ่มดังนี้
3.อ่านหนังสือ หรือหนังสือพิมพ์ - บทความดีๆ อาจจะเป็นสิ่งที่คุณต้องการเพื่อให้ลืมเรื่องอื่นๆในหัวคุณที่เป็นต้นเหตุความเครียด ตื่นตัวหรือตื่นเต้น เพราะการอ่านช่วยให้เราหยุดความคิดให้อยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น

4.อย่าอ่านหนังสือจากอุปกรณ์อิเลคทรอนิก (e-book) - แม้การอ่านจะช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้น แต่การอ่านจากจอมือถือ หรือแทปเล็ต ซึ่งคือจอ LCD ที่มีความสว่างนั้นจะทำให้ร่ายกายคุณตื่นตัวขึ้นมากกว่าเดิม

หลักทั่วไปในการนอนให้หลับในทุกๆที่

1.ดื่มน้ำให้พอก่อนที่จะนอน - การขาดน้ำเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณต้องตื่นขึ้นมากลางดึก ซึ่งทำให้ร่างกายคุณไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ แม้บางท่านอาจเถียงว่าหากดื่มน้ำมากก็ต้องเข้าห้องน้ำกลางดึกนอนไม่หลับอยู่ดี แต่อย่างไรก็ตามการที่เราได้รับน้ำอย่างเพียงพอก็ยังดีกว่า แต่ควรระวังเครื่องดื่มที่คุณดื่มเข้าไปก่อนที่จะนอน อาทิเช่น เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน โคล่า ชา และ กาแฟนั้น จะทำให้คุณยิ่งหลับยากกว่าเดิม และเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ก็สามารถเป็นเหตุให้นอนไม่หลับด้วยเช่นกัน

2.เตรียมตัวช่วย - เตรียมตัวช่วยอะไรก็ตามที่จะช่วยให้คุณพักผ่อนได้เต็มที่ในช่วงเวลาที่จำกัดในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นหมอนหนุน ผ้าปิดตา ที่อุดหู หรืออาจะจะเป็นเพลงที่จะกล่อมคุณได้

3.ออกกำลังกาย - การออกกำลังกายนั้นจะช่วยให้เลือดลมคุณไหลเวียนได้ดี และจะช่วยให้พักผ่อนได้เต็มที่มากขึ้น พร้อมตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น

4.ปรับแสง - แสงเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อการนอน มีการกล่าวเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง ดังนั้นเมื่อคุณตื่นขึ้นในวันเช้าแรกที่เดินทาง พยายามตื่นให้เช้าและไปรับแสงด้านนอกทันที เพื่อช่วยให้สมองคุณปรับตัว และเมื่อคุณเข้านอนก็ควรปรับแสงให้หม่น และอยู่ให้ห่างแสงจ้าเพราะแสงจะทำให้ร่างกายคุณสับสนและขัดขวางการหลับอย่างเต็มที่ของคุณ



Credit Pic : : youngfolksociety and chambresavecvues ขอบคุณข้อมูลจาก : dauntlessjaunter.com

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมได้ที่ : www.TerraBKK.com

Facebook : TerraBKK Facebook

Google+ : TerraBKK Google+

Twitter : TerraBKK Twitter