ระบบรางเดินหน้า เปิดทางพัฒนาอสังหาฯไทย

การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นับจากปี 2558 จะขยายสู่แถบชานเมืองและบริเวณจุดตัดสถานีรถไฟฟ้ามากขึ้นหากโครงการสร้าง แล้วเสร็จ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การพัฒนาของระบบราง มีอิทธิพลมากต่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า ปัจจุบัน โครงการรถไฟฟ้าที่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างมากที่สุดมี 3 เส้นทาง คือ สายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ที่คืบหน้าแล้ว 57.33% จะเสร็จปลายปี 2559 และเริ่มทดสอบระบบในปี 2560

สายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ คืบหน้า 44.42% จะเปิดให้บริการในปี 2561 และสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ คืบหน้าร้อยละ 96.3 จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบกลางปี 2559 โดยมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คู่ขนานกัน เมื่อโครงการรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ เชื่อมต่อการเดินทางและเกิดสถานีร่วมของรถไฟฟ้ามากกว่า 1 สาย จะเกิดศูนย์กลางพาณิชย์ และการพัฒนาคอนโดมิเนียมใหม่ๆ มากขึ้น และไม่ได้กระจุกตัวเฉพาะใจกลางเมือง แต่จะกระจายไปยังเมืองรอบนอก ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเข้าถึงคอนโดมิเนียมในราคาที่หลากหลาย แม้ราคาที่ดินจะพุ่งขึ้นตามระบบราง แต่ก็ผันแปรไปตามความชัดเจนของโครงการด้วย เช่นเดียวกับ ความเจริญจะมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่เหมาะแก่การพัฒนาหรือไม่ หากพัฒนาต่อได้ ชานเมืองก็มีโอกาสกลายเป็นเมืองหลวงได้ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เชื่อว่า ปีหน้าภาคอสังหาริมทรัพย์ จะเติบโตได้ร้อยละ 4-5 สอดคล้องกับเศรษฐกิจโดยรวม

โอกาสที่มาพร้อม เออีซี คืออีกประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากข้อได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ทำให้ภายใน 5 ปี จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคอีสาน จะได้รับการพัฒนาแบบก้าวกระโดด เพราะรัฐบาลมีแผนพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ ในเส้นทางหนองคาย -โคราช- แก่งคอย -ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทาง 734 กิโลเมตร และเส้นทางแก่งคอย - กรุงเทพ ฯ 133 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมการเดินทางและการขนส่งสินค้า