6 จังหวะเลือกลงทุนให้รวย ตามรอบเศรษฐกิจ
ก่อนทุกการลงทุนควรมีการศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดี เพื่อทำความเข้าใจถึงความแตกต่างแต่ละประเภทการลงทุน ไม่จะเป็น ลักษณะการลงทุน , ผลประโยชน์ที่จะได้ความจากการลงทุน สิ่งเหล่านี้สามารถสะท้อนได้ถึง "ระดับความเสี่ยง" ที่แต่ละบุคคลจะยินยอมรับได้ ซึ่งนอกจากปัจจัยเรื่องความเสี่ยงแล้ว หลายคนอาจมองข้ามเรื่อง "ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การลงทุน" ในแต่ละประเภทไป TerraBKK พบข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ การเลือกประเภทการลงทุนให้เหมาะสมตามรอบภาวะเศรษฐกิจ จะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุน เพื่อนำไปประยุกต์ต่อยอดการลงทุนได้
Martin J. Pring ผู้แต่งหนังสือ The Six Stages of Business Cycle เริ่มเข้าวงการการเงินตั้งแต่ 1969 ก่อตั้งองค์กรให้บริการวิจัยแก่สถาบันการเงินและนักลงทุนรายย่อยทั่วโลก รวมทั้งหนังสือที่แนะนำวิเคราะห์การลงทุนทางเทคนิคที่แปลมากกว่า 10 ภาษา ปัจจุบันการวิจัยของเขาได้พัฒนาสู่การเป็นของตัวชี้วัดทางการเงินและเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือในการพิจารณาเลือกการลงทุน โดยเขาได้แบ่ง สินทรัพย์เพื่อการลงทุน 3 กลุ่ม ได้แก่ พันธบัตร , หลักทรัพย์ และ สินค้าโภคภัณฑ์ ตามรอบ ภาวะเศรษฐกิจ 6 กลุ่ม ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย,ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำสุด ,ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ,ภาวะเศรษฐกิจขยายตัว , ภาวะเศรษฐกิจรุ่งเรือง และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ตามแผนภาพ ดังนี้Source : Figure 2-4 The six stage of a typical business cycle, Analysis Explained Fourth Edition By Martin J. Pring
TerraBKK อธิบายภาพรวมลักษณะเศรษฐกิจแต่ละช่วง พร้อมแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมตามช่วงเวลานั้นๆ ดังนี้
Stage 1 : ภาวะเศรษฐกิจถดถอย "ลงทุนพันธบัตร"
- มีการเติบโตเศรษฐกิจลดลง ภาวะการค้าเริ่มซบเซา ทำให้ผู้ประกอบการทั้งหลายเริ่มลดการผลิตลง อาจตามมาด้วยการลดต้นทุน เช่น ลดทรัพยากรในการผลิต เลิกจ้างแรงงาน เป็นต้น ประชาชนภาพรวมมีอำนาจซื้อลดน้อยลง
- การลงทุนที่เหมาสมจะเป็นการลงทุน "พันธบัตร" เพราะมี รัฐบาลค้ำประกัน จึงมี ความปลอดภัยมากที่สุดและให้ผลตอบแทนดีที่สุด หากประสงค์ลงทุนหลักทรัพย์ ควรลงทุนในกลุ่มสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร เป็นต้น
Stage 2 : ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำสุด "ลงทุนหลักทรัพย์"
- เป็นภาวะเมฆหมอกดำปกคลุม มองไม่เห็นโอกาศ ไม่มีสภาพคล่องการค้าการขาย ธุรกิจอาจเกิดปัญหาสินค้าค้างสต็อกจำนวนมาก เกิดภาวะการว่างงานกระจายตัวไปทั่ว ประชาชนจึงไม่ค่อยมีกำลังซื้อเพราะมีรายได้ลดลง
- การลงทุนที่เหมาสมจะเป็นการลงทุน "หลักทรัพย์" เพราะจะซื้อได้ใน ราคาต่ำกว่ามูลค่าแท้จริง เน้นหุ้นกลุ่มชี้นำการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มหลักทรัพย์ หรือ กลุ่มสินค้าบริโภค เช่น รถยนต์ ,เครื่องใช้ไฟฟ้า , อสังหา ,วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
Stage 3 : ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว "ลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์"
- ภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปเริ่มดีขึ้น ราคาสินค้าเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น การคาดคะเนกำไรขอผู้ประกอบการเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น ธนาคารและสถาบันการเงินโดยรวม เริ่มปล่อยสินเชื่อ เพื่อกระตุ้นการผลิตและการลงทุนของผู้ประกอบการ
- จังหวะนี้ สามารถเริ่มเข้าลงทุนใน "สินค้าโภคภัณฑ์" เช่น ทองคำ เป็นต้น เพราะ สินค้าโภคภัณฑ์มักปรับตัวก่อนภาวะเศรษฐกิจจริงจาก การคาดการณ์สภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ หากประสงค์ลงทุนในหลักทรัพย์ ควรเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี หรือหุ้นกลุ่มวัฎจักร (Cyclical stocks)
Stage4 : ภาวะเศรษฐกิจขยายตัว "ลงทุนหลักทรัพย์"
- บรรยากาศดีทั่วตลาด ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการลงทุนและผลตอบแทนจากการลงทุน ทำให้การลงทุนมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว การจ้างงานเพิ่มขึ้นมาก มีสภาพคล่องด้านการจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการ เศรษฐกิจจะมีการเจริญเติบโตในอัตราสูง
- จังหวะนี้ การลงทุน "หลักทรัพย์" และ "สินค้าโภคภัณฑ์" จะอยู่ในภาวะคึกคัก และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีกว่าพันธบัตร ลงทุนได้ในหุ้นทุกกลุ่มที่มีพื้นฐานดี และหุ้นกลุ่มวัฎจักร (Cyclical stocks)
Stage 5 : ภาวะเศรษฐกิจรุ่งเรือง "เลือกถือหลักทรัพย์บางตัว"
- ผู้บริโภคที่มีกำลังอำนาจซื้อสูง เป็นช่วงที่มีการจ้างงานอย่างเต็มที่ แรงงานสามารถจะเลือกงานและเรียกร้องค่าจ้างได้ตามที่ต้องการ มีสภาพคล่องการค้าขายการจับจ่ายบริโภคและการท่องเที่ยวสูงสุด สินค้าและบริการมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจนอาจจะก่อให้เกิดเงินเฟ้อ
- ช่วงเวลานี้ จะเป็นจุด Peak ของตลาดหลักทรัพย์ที่เต็มไปด้วยความโลภและความประมาท แนะนำว่า ควรขายทำกำไรหุ้นบางตัว และเลือกถือหุ้นบางประเภท "หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพื้นฐาน" เช่น น้ำมัน , "หุ้นกลุ่มวัถุดิบ" ที่ได้รับประโยชน์จากการผลิต และ "หุ้นกลุ่มวัฎจักร (Cyclical stocks)"
Stage 6 : ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว "ถือเงินสด"
- เป็นภาวะเศรษฐกิจเงินเฟ้อ จากการลงทุนการบริโภคเกินกำลังการผลิตของประเทศ GDPประเทศไม่เพิ่มขึ้น หรือเพิ่มขึ้นในอัตราลดลง ผู้ประกอบการลดความมั่นใจในการลงทุน ประกอบกับต้นทุนการผลิตโดยรวมที่สูงขึ้นจากภาวะการแข่งขัน สิ่งที่ตามมา อาจเกิดการลดการกำลังการผลิตและอัตราแรงงาน ส่องให้เกิดสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวโดยทั่วไป
- จังหวะนี้ ชี้ให้เห็นว่า การลงทุนในแต่ละสินทรัพย์หมดรอบแล้ว และเริ่มเป็นแนวโน้มขาลง แนะนำว่าควรขายทำกำไร และ "ถือเงินสด" แทน เพื่อรอดูการแก้ไขสถานการณ์ของรัฐบาล โดยเริ่มต้นใหม่ที่ Stage 1 อีกครั้ง
TerraBKK ประมาณการณ์ว่า สถานการณ์ขณะนี้อยู่ใน ช่วงท้าย Stage 2 เข้าสู่ Stage 3 จากสถานการณ์คลี่คลายทางการเมือง เสมือนผ่านจุดต่ำสุดของประเทศมาแล้ว หากสังเกตสินทรัพย์เพื่อการลงทุนตามหลักการ The Six Stages of Business พบว่า แนวโน้ม หุ้น ระยะยาวที่ผ่านมา เป็นช่วงขาขึ้นมาโดยตลอด จากปี 51 อยู่ที่ราว 400 จุด แล้วปรับตัวขึ้นจนปัจจุบันอยู่ที่ราว 1,600 จุด ขณะที่ล่าสุด มค.ที่ผ่านมา สินค้าโภคภัณฑ์อย่าง ทองคำ ก็ได้ปรับตัวขึ้นแตะ 20,000 บาทในรอบ 6 เดือน ทั้งนี้ โปรดใช้วิจารญาณและศึกษาตัวชี้วัดเศรษฐกิจไทยด้านอื่นประกอบ ท้ายนี้ TerraBKK ขอฝากว่า การทำความเข้าใจแนวคิดการเลือกลงทุนตามรอบเศรษฐกิจ จะเป็นพื้นฐานที่สามารถต่อยอดการลงทุนสร้างผลประโยชน์สูงสุดแก่นักลงทุน --เทอร์ร่า บีเคเค
บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก