รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจงหนี้สาธารณะเพิ่ม จากรัฐบาลกู้เงินมาเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หวังขยายตัวทางเศรษฐกิจ

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้างสิ้นเดือนมกราคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,658,059.36 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.46 ของ GDP เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 34,085.53 ล้านบาท โดยสัดส่วนยังคงต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ร้อยละ 60 ของ GDP ซึ่งการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะมาจากรัฐบาลกู้เงินส่วนใหญ่มาเพื่อลงทุน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการหมุนเวียนเม็ดในระบบ จึงเป็นการก่อหนี้ที่มีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นภาวะปกติ รวมทั้งหนี้สาธารณะปัจจุบันยังอยู่ในกรอบความยั่งยืนการคลัง

โดยหนี้สาธารณะ แบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น 42,109.72 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 17,116.61 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อการลงทุน จำนวน 1,988.23 ล้านบาท และการชำระหนี้ที่กู้มาเพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 1,802 ล้านบาท ส่วนหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน มียอดหนี้คงค้างลดลง 5,058.56 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มียอดหนี้คงค้างลดลง 1,919.63 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐมียอดหนี้คงค้างลดลง 1,046 ล้านบาท

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: INNNEWS