จัดบ้านอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ
หลักการแบ่งเวลาใช้ชีวิตอย่างสมดุล คือหลัก 8/8/8 จัดแบ่ง 24 ชั่วโมงของแต่ละวันออกเป็น 3 ส่วน 8 ชั่วโมง นอน 8 ชั่วโมงทำงาน และอีก 8 ชั่วโมง ทำสิ่งที่อยากทำ แต่ด้วยไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบัน การจัดเวลาแบบนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ เวลาใน 1 วันของหลายคนแบ่งเป็น 8/ 12/ 4 มากกว่า คือ 8 ชั่วโมง อยู่บ้าน 12 ชั่วโมงทำงานและเดินทาง อีก 4 ชั่วโมงทำงานล่วงเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและทำร้ายสุขภาพร่างกายมาก แม้จะใช้เวลาไม่ได้ตามหลักแห่งความสมดุล แต่เราก็สามารถจัดสภาพแวดล้อมที่จะส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพได้ เริ่มจากจัดบ้าน สถานที่ที่เราอยู่ด้วยอย่างน้อย 1 ใน 3 ของวันให้น่าอยู่ซะก่อน
สะอาดเรียบร้อย บ้านต้องสะอาดเรียบร้อย เก็บกวาดสม่ำเสมอ และมีอากาศถ่ายเทสะดวกไม่ทึบทึม เพราะทั้งความสกปรกและอากาศที่ไม่ถ่ายเทเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค การคลุกคลีอยู่อาสัยในแหล่งเชื้อโรคย่อมทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นสละเวลาสักนิดเก็บกวาดให้เรียบร้อย มีระบบการจัดการที่ดี ก็จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นทันตา
แยกอยู่เป็นสัดส่วน ควรแยกส่วนต่างๆ ออกจากกันให้ชัดเจนไม่ปะปน เช่นไม่ควรกินข้าวในห้องนอน ไม่ควรทำอาหารในห้องรับแขก และหากมีสัตว์เลี้ยง ก็ต้องแยกโซนที่อยู่ของมันให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้สกปรก
จัดตำแหน่งได้เหมาะสม การจัดวางห้องต่างๆ เป็นสิ่งที่ต้องเริ่มทำตั้งแต่สร้างบ้าน แม้ปัจจุบันหลายคนจะอยู่ในที่ที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง เลือกไม่ได้ว่าจะเอาห้องไหนไปวางไว้ตรงไหน เอาเป็นว่าเอาเท่าที่ได้ หรือรู้ว่าควรจัดวางห้องต่างๆ อย่างไรก็แล้วกัน
ห้องนอน ควรอยู่ในทิศที่มีช่องเปิดทางทิศตะวันออก เพื่อให้รับรู้เวลาระหว่างวัน คือรู้ว่าเช้าแล้วหรือยังนั่นเอง นอกจากนี้แสงแดดในตอนเช้ายังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ห้องนอนควรเป็นห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อับชื้นอันจะชวนให้เกิดโรค
ห้องครัว เนื่องจากเป็นห้องที่ใช้ประกอบอาหาร สิ่งที่เราจะกินเข้าไปดังนั้นต้องสะอาด และระบายกลิ่นได้ดี เผื่อเวลาต้มผัดแกงทอดกลิ่นจะได้ไม่อบอวลอยู่ในบ้าน
ห้องกินข้าว ตามหลักแล้วห้องกินข้าวควรอยู่ติดกับห้องครัว แต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัดหลายบ้านห้องกินข้าวกับครัวอยู่ด้วยกันซึ่งก็ไม่ผิดอะไร แต่ห้องกินข้าวก็ต้องสะอาดมาเป็นที่ 1 เช่นกัน
ห้องรับแขก ควรอยู่ด้านหน้าของบ้านเป็นสัดส่วน เพื่อที่แขกจะได้ไม่ต้องเดินเข้ามาวุ่นวายกับส่วนอื่นๆ และควรจะสะอาดเพราะถือว่าเป็นหน้าเป็นตาเจ้าของบ้าน อากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อไม่ให้อึดอัด
ห้องน้ำห้องส้วม ห้องน้ำเอาไว้อาบน้ำ ส่วนห้องส้วมเอาไว้ปลดทุกข์บ้านเรามักจัดห้องน้ำห้องส้วมไว้รวมกัน แต่ถ้ามีพื้นที่จัดแยกกันไว้ก็จะดี เพื่อความสะอาดและสุขอนามัย ห้องน้ำห้องส้วมต้องแห้ง สะอาด ใช้วัสดุปูพื้นที่ไม่เสี่ยงต่อการลื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ
รอบบริเวณบ้าน ทุกวันนี้คนอยู่คอนโดกันมากขึ้นทำให้ไม่มีบริเวณที่ต้องดูแลรักษามากนัก แต่ถ้ามีบริเวณบ้านก็ควรจัดให้สะอาด ไม่มีน้ำท่วมขัง ถ้ามีสนามหญ้าก็ตัดหญ้าให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของงู
มีระบบการจัดการของเสียที่ดี เช่นมีถังขยะที่มีฝาผิดมิดชิด อยู่ห่างจากบ้านพอที่จะไม่ส่งกลิ่นรบกวนคนในบ้าน มีการระบายน้ำใช้ ให้ไม่ท่วมขังหรือส่งกลิ่นเหม็น เท่านี้ก็จะทำให้ในบ้านสะอาด อยู่สบายและดีต่อสุขภาพ