โครงการหลังสวน วิลเลจ เป็นหนึ่งในโปรเจ็คท์อันโดดเด่นของ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในช่วงปี 2557 ถึงต้นทศวรรษ 2560 ดังที่ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ระบุไว้ในเนื้อหาส่วนหนึ่งของรายงานของผู้อำนวยการฯ จากหนังสือรายงานประจำปี 2557 ของสำนักงานทรัพย์สินฯ ว่า

"ในส่วนของการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ สำนักงานทรัพย์สิน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ดิน พื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และส่วนภูมิภาคประมาณ 41,000 ไร่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม ควบคู่กับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่และสังคมโดยรวมให้มีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น จากหลากหลายแนวทางที่เหมาะสมกับประเภทของผู้เช่า โดยมี ′โครงการหลังสวน วิลเลจ′ เป็น ′ก้าวสำคัญ′ ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวใหม่ ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทในเครือของสำนักงานทรัพย์สินฯ เอง ที่ใส่ใจในคุณภาพทุกมิติอย่างรอบด้าน โดยสำนักงานทรัพย์สินฯ เป็นผู้กำกับดูแลในระดับนโยบายอย่างใกล้ชิด"

โครงการหลังสวน วิลเลจ ดำเนินการโดยบริษัท สยามสินธร จำกัด ในเครือสำนักงานทรัพย์สินฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 52 ไร่ บริเวณถนนหลังสวน ใจกลางเขตเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ หนังสือรายงานประจำปี 2557 ของสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ระบุว่า นอกจากจะเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ให้เหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่แล้ว ยังโดดเด่นด้วยการแบ่งพื้นที่ใช้สอยที่เอื้อประโยชน์สูงสุดต่อผู้เช่าและสร้างสังคมคุณภาพที่น่าอยู่อย่างเกื้อกูล

อีกทั้งยังมีการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทัศนียภาพของมหานคร จัดสรรเส้นทางการจราจรที่คล่องตัว และจัดให้มีพื้นที่เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ผ่านศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันงดงาม

หนังสือรายงานประจำปีของสำนักงานทรัพย์สินฯระบุต่อว่า หัวใจสำคัญของโครงการดังกล่าวคือ การคำนึงถึงชุมชนและสังคมรอบข้าง พร้อมดูแลผู้เช่าเดิมให้เกิดความเป็นธรรมที่สุด ด้วยเหตุนี้ โครงการหลังสวน วิลเลจ จึงได้สร้างความเข้าใจและให้เวลาแก่ผู้เช่าเดิมในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด

การเจรจาขอพื้นที่คืนจากผู้เช่าเดิมเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2553 นอกจากนี้ ยังมีการสร้างความเข้าใจกับผู้ค้าหาบเร่และแผงลอยในพื้นที่ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน สำนักงานทรัพย์สินฯ ก็ได้มอบความช่วยเหลือแก่ผู้เช่าเดิมหลายด้าน ทั้งการดูแลระหว่างการย้ายที่อยู่อาศัยและให้สิทธิ์แก่ผู้เช่าเดิมได้กลับมาเช่าใหม่ รวมถึงการจัดเตรียมสถานที่และสาธารณูปโภคให้ผู้ค้ารายย่อยเดิมสามารถกลับมาค้าขายได้

นอกจากโครงการหลังสวนวิลเลจจะมีการออกแบบก่อสร้างอาคารสูงเพื่อการพักอาศัยและโรงแรมที่ทันสมัยแล้ว ยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ในลักษณะเปิดโล่ง เพื่อทำหน้าที่เป็นปอดแห่งใหม่ของย่านธุรกิจใจกลางกทม. ตลอดจนมีแนวถนนคนเดินขนานไปกับถนนหลังสวน โดยจะมีร้านค้า ร้านอาหาร อาคารศูนย์การแพทย์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ซึ่งมีขนาดเนื้อที่รวม 15 ไร่ เปิดให้บริการ เพื่อใช้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชน และเป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์กระชับความสัมพันธ์ในหมู่ญาติมิตร ตลอดจนมีศูนย์รวมของการเพิ่มพลังกายและพลังความรู้ของชุมชน

โครงการหลังสวน วิลเลจ ค่อยๆ ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยมีผู้เชี่ยวชาญใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การพิจารณาศักยภาพของพื้นที่ การเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อนำไปสู่การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเลือกใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างและวัสดุที่ทันสมัยตามมาตรฐานสูงสุด ตลอดจนวางระบบภายในที่ช่วยประหยัดพลังงาน จนเป็นโครงการที่พักอาศัยที่ได้รับมาตรฐานสากล LEED หรือ Leadership in Energy and Environmental Design (ความเป็นผู้นำในด้านพลังงานและการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม)

จึงทำให้โครงการหลังสวนวิลเลจเป็นเสมือน "ต้นแบบ" การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวใหม่ เพื่อต่อยอดสำหรับการพัฒนาพื้นที่แปลงอื่นๆ ของสำนักงานทรัพย์สินฯ จากความร่วมมือร่วมใจของผู้เช่าและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จนเกิดเป็นโครงการคุณภาพที่ร่วมกันสร้างสังคมคุณภาพที่น่าอยู่อย่างเกื้อกูล

แผนงานการก่อสร้างโครงการหลังสวน วิลเลจ
  1. คอนโดมิเนียม สินธร เรสซิเดนซ์ แล้วเสร็จปี 2559
  2. คอนโดมิเนียม อาคาร S แล้วเสร็จปี 2561-2562
  3. คอนโดมิเนียม อาคาร W แล้วเสร็จปี 2561-2562
  4. คอนโดมิเนียม อาคาร L แล้วเสร็จปี 2561-2562
  5. ศูนย์การแพทย์ แล้วเสร็จปี 2562
  6. แนวถนนคนเดิน แล้วเสร็จปี 2562
  7. อาคารหลังสวน พาร์ค วิว แล้วเสร็จปี 2560
  8. อาคารต้นส้น พาร์ค วิว แล้วเสร็จปี 2560
  9. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ แล้วเสร็จปี 2562
  10. โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และห้องจัดเลี้ยง แล้วเสร็จปี 2560

(เรียงเรียงจากหนังสือรายงานประจำปี 2557 "สู่การพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน" ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์)

นอกจากนี้ พบทำเลใกล้เคียงที่น่าสนใจ อย่าง "สามย่าน" ซึ่งทีมงาน TerraBKK รวบรวมข้อมูลไว้ในบทความ "มอง "สามย่าน" ฉายศักยภาพทำเลที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง"

คลิ๊ก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ขอบคุณข้อมูลจาก : มติชนออนไลน์