วันนี้เราจะมาตอบคำถามของสาวๆว่าทำไมเราจึงปวดหัวและ อาการปวดแต่ละอย่างมันต่างกันอย่างไร รวมทั้งวิธีแก้นั้นจะทำอย่างไร
1. ปวดหัวจากฤทธิ์ของคาเฟอีน การที่มีปริมาณคาเฟอีนร่างกายมากเกินไป ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดหัว คาเฟอีนมักจะใช้เป็นยาระงับอาการปวดหัว แต่ในกรณีนี้ปริมาณของคาเฟอีนในร่างกายอาจจะมากเกินไปจึงทำให้เกิดอาการปวด ในอีกอาการหนึ่งของการปวดหัวจากคาเฟอีนก็คือ การปวดหัวจากอาการขาดคาเฟอีน หรือติดนั่นเองวิธีแก้การปวดหัวอย่างแรกทำได้อย่างเดียวก็คือรอให้ฤทธิ์ของคาเฟอีนหมดไป หรือดื่มน้ำมากๆเพื่อให้ร่างกายขับได้เร็วขึ้น ส่วนการแก้ปวดหัวจากอาการขาดคาเฟอีน ก็คือ กินคาเฟอีนนั่นเอง
2. ปวดหัวจากความเครียด ปวดหัวจากความเครียดเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป มากกว่า 38 เปอร์เซ็นต์ของคนเรา มักจะเกิดอาการนี้ อาการนี้อาจจะมาจากหลายสาเหตุนอกจากความเครียด อย่างเช่นนอนไม่พอ หรือ ดื่มน้ำน้อย อาการปวดก็จะเป็นการปวดเบาๆ ทั้ง 2 ข้าง อาจจะรู้สึกตึงที่คอหรือไหล่ด้วยการแก้ไขอาการปวดหัวดังกล่าวก็ทำได้โดยการกินยาแก้ปวด แต่การกินยาบ่อยๆก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดี สาวๆคนไหนที่มีความเครียดมากมากอาจจะลองผ่อนคลายตัวเองดูบ้างโดยการออกกำลังกายหรือนั่งสมาธิเป็นต้น
3. อาการปวดหัวแบบเป็นกลุ่ม มักจะเป็นการปวดหัวแบบรอบๆดวงตา และมักจะเป็นปวดตุ๊บๆ ตามลักษณะการเต้นของหัวใจ มักจะเป็นการปวดที่รุนแรง อาการปวดนี้สามารถคาดการณ์ได้ สาเหตุเกิดจากการทำงานของสมองส่วน hypothalamus เกิดความผิดพลาด สาวๆคนไหน เกิดอาการปวดหัวแบบนี้ แนะนำให้หายใจลึกลึก เอาออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองจะทำให้อาการบรรเทาได้ค่ะ
4. ปวดหัวแบบไมเกรน แบบไมเกรนมักจะเกิดขึ้นกับหัวข้างเดียว แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นทั้ง 2 ข้างได้เช่นกัน ไมเกรนมักจะเกิดกับผู้ที่มีความรู้สึกไวต่อแสง เสียง หรือ กลิ่น และจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นยังไม่แน่ชัดว่าเกิดกับสมองส่วนไหน และอาการปวดทำงานอย่างไร จึงไม่สามารถผลิตยาที่รักษาตรงจุดได้
การศึกษาพบว่า อาการไมเกรนสามารถติดต่อทางพันธุกรรมได้ และมักจะเป็นกับผู้หญิงมากกว่า วิธีการบรรเทาความเจ็บปวดจากไมเกรนก็คือการหลีกเลี่ยงจากสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไมเกรน เช่น ถ้าแพ้แสงก็ให้อยู่ในที่มืด ในกรณีนี้คาเฟอีนสามารถช่วยบรรเทาได้นิดหน่อยค่ะ สาวๆคนไหนมักมีอาการปวดหัวบ่อยๆ อย่าลืม ลองเอาไปใช้กันนะคะ แปลและเรียบเรียงโดย The Canary Bird

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.girlsallaround.com