5 ปีย้อนหลังผลประกอบการ 15 บริษัทกลุ่มโรงพยาบาล ประจำไตรมาส 1 ปี 2558
TerraBKK Research อัพเดทผลประกอบการกลุ่มโรงพยาบาล (Health Care Service) ไตรมาส 1 ย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554-2558 ครบทุกโรงพยาบาลมีด้วยกันทั้งหมด 15 บริษัท ที่มีการซื้อขายในตลาดรอง SET บริษัทไหนสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น และมีแนวโน้มที่จะกลายมาเป็นบริษัทผู้นำในของกลุ่ม
จากการที่ TerraBKK Research อัพเดทผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2558 พบว่า โรงพยาบาลที่ถือว่าเติบโตดีและผลประกอบการดีอันดับต้นๆ คือ Bumrungrad และ Chiang Mai Ram ส่วนภาพรวมทั้งกลุ่มเติบโตต่อเนื่องทั้งสินทรัพย์รวมและยอดขาย และไตรมาส 1 ที่ผ่านมาความสามารถในการทำกำไรส่วนใหญ่ของบริษัทดีขึ้นจากไตรมาส 1 ปีที่แล้วด้วย ติดตามรายละเอียดที่น่าสนใจได้ดังนี้
รายได้ (Revenue) ในไตรมาส 1 โรงพยาบาลส่วนใหญ่มีแนวโน้มของกำไรเติบโตตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จากการที่ประเทศไทยมีชื่อเสียงทางด้านการแพทย์ทั้งฝีมือการแพทย์ไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ค่าบริการถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น อีกทั้งประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็น Medical Hub ของโลก จึงทำให้เห็นว่าอุตสาหกรรมนี้ยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกเรื่อยๆ สำหรับโรงพยาบาลที่มีรายได้โตขึ้นมากที่สุดในไตรมาส 1 ปีนี้คือ Bumrungrad โต 21.12% QoQ รองลงมาคือ Chularat โต 12.88%, Bangkok Dusit โต 12.68% และ Chiang Mai Ram โต 11.95% ล้วนแต่มีรายได้โตมากกว่า 10% มากขึ้นตามลำดับ ส่วนโรงพยาบาลที่รายได้ลดลงมี 4 โระงพยาบาล ได้แก่ Thonburi, Nonthavej, Sikarin, Ramkhamhaeng ตามลำดับจากลดมากไปน้อย
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ดีที่สุดคือ Bumrungrad 42.45% รองลงมา Chiang Mai Ram 40.76%, Samitivej (37.25% รักษาระดับนี้ได้มาตลอด) บริษัทที่มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธมากขึ้นตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ Bumrungrad,Chiang Mai Ram, Vibhavadi อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) กลุ่มโรงพยาบาลที่มากที่สุด คือ Ramkhamhaeng (แต่มีแนวโน้มของความสามารถในการกำไรลดลงมาเรื่อยๆ) รองลงมา Bumrungrad ทั้งสองบริษัทมีกำไรสุทธิมากกว่า 20% ส่วนบริษัทที่มีแนวโน้มของกำไรสุทธิสูงขึ้น คือ Bumrungrad,Chiang Mai Ram, Nonthavej และ Mahachai แนวโน้มของกำไรสุทธิที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นตัวสะท้อนถึงความสามารถในการควบคุมรายจ่ายทั้งต้นทุนและการบริหารของกิจการว่ามีประสิทธิภาพมาน้อยเพียงใด
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (Return on Asset) โรงพยาบาล Bumrungrad ทำผลตอบแทนได้ดีอีกเช่นเคยอยู่ที่ระดับ 20.78% ส่วนโรงพยาบาลที่มี ROA เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 10% เพื่อหาโรงพยาบาลผู้ชนะในปีนี้ ได้แก่ Thonburi (53.91% QoQ ปัจจุบัน ROA ติดลบ), Nonthavej (11.24% QoQ),Bumrungrad (11.24% QoQ) และ Srivichaivejvivat (10.50% QoQ) อัตราผลตอบแทนจากส่วนของทุน (Return on Equity) ROE มากสุด คือ Bumrungrad ส่วนโรงพยาบาลที่มีการเพิ่มขึ้นของ ROE มากกว่า 10% ได้แก่ Thonburi (52.45% QoQ ปัจจุบัน ROE ติดลบ), Srivichaivejvivat (20.24% QoQ) และ Ramkhamhaeng(11.09% QoQ)
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
อัตรากำไรต่อหุ้น (Earning per Share) บริษัทที่มี EPS โตมากกว่า 15% ได้แก่ Bumrungrad (52.27% QoQ), Mahachai (46.05% QoQ), Chiang Mai Ram (44.01% QoQ) และ Aikchol (20.00% QoQ), BDMS (15.38% QoQ)
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
อัตราหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) แต่ละโรงพยาบาลมีหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับปกติไม่เกิน 2 เท่า บริษัทที่มีแนวโน้มหนี้สินต่อทุนลดลงตลอด ได้แก่ Chiang Mai Ram, Bumrungrad, Samitivej และ Nonthavej
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
แนวโน้มการเจริญเติบโตของสินทรัพย์ แต่ละโรงบาลมีการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่ถือครองเพิ่มขึ้นในทุกๆบริษัท ทำให้เห็นถึงการขยายตัวของธุรกิจโรงพบาลเติบโตในแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้จะกลับมาสร้างรายได้ให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
อัตราส่วนเงินทุนหมุนเร็ว (Quick Ratio) จะเป็นตัวบอกถึงสินทรัพย์ที่เทียบเท่าเงินสดโดยไม่รวมสินค้าคงคลัง ทำให้เห็นสภาพคล่องที่แท้จริงของบริษัทมากขึ้นโดยอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนควรมีค่ามากกว่า 1 เท่า โดยบริษัทที่ Quick Ratio มากกว่า 1 เท่า ได้แก่ Bumrungrad สูงถึง 3.59 เท่า, Aikchol 2.77 เท่า, Chularat 1.93 เท่า และ Srivichaivejvivat 1.03 เท่า - เทอร์ร่า บีเคเค
(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
อัตรากำไรสุทธิ จะแสดงถึง ความสามารถในการทำกำไรสุทธิของบริษัท เป็นการวัดความสามารถของบริษัทในการควบคุมรายจ่ายทุกประการทั้งดอกเบี้ยและภาษีเมื่อเทียบกับยอดขาย หากอัตราส่วนนี้มีค่าสูงแสดงว่าบริษัทสามารถเปลี่ยนยอดขายให้เป็นกำไรสุทธิได้มาก
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) แสดงถึง สัดส่วนของเงินทุนจากการกู้ยืมต่อเงินทุนจากเจ้าของธุรกิจถ้าอัตราส่วนนี้สูงแสดงว่าบริษัทมีการกู้ยืมเงินในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับเงินทุนจากผู้ถือหุ้นของบริษัท ทำให้มีความเสี่ยงในลักษณะเดียวกับอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (Return on Asset:ROA) แสดงถึง ระดับผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท เป็นการวัดความสามารถในการนำสินทรัพย์ทั้งหมดของธุรกิจใช่ในการสร้างยอดขายและควบคุมค่าใช่จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมดสุทธิจากภาษีแต่ก่อนต้นทุนทางการเงิน (ดอกเบี้ยจ่ายสุทธิจากภาษีที่ประหยัดได้) อัตราส่วนที่สูงแสดงว่าบริษัทมีความสามารถสูงในการนำสินทรัพย์ไปสร้างกำไรจากการดำเนินงาน
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity : ROE) แสดงถึง ระดับผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นการวัดความสามารถในการทำกำไรให้แก่เงินทุนของผู้ถือหุ้น หากค่าที่ได้จากการคำนวณสูงแสดงว่าผู้ถือหุ้นมีโอกาสได้รับเงินปันผลและผลตอบแทนที่สูง
บทความโดย : TerraBKK ข่าวอสังหาฯ TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก