ธนารักษ์ไม่รอ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ของบกลางนายกฯ 1,000 ล้านบาท ประเมินราคาที่ดินรายแปลงทั่วประเทศ 32 ล้านแปลงให้เสร็จภายในปี 2559 มั่นใจเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมให้กรมที่ดินอีก 30,000– 50,000 ล้านบาท นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า หากในปีงบประมาณ 2559 กรมธนารักษ์ได้รับการจัดงบประมาณจากรัฐบาลประมาณ 800-1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในเรื่องการว่าจ้างบุคลากรการลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ เพื่อประเมินราคาที่ดินรายแปลงทั่วประเทศ คาดว่ารายได้จากค่าธรรมเนียมต่างๆของกรมที่ดินจะเพิ่มอีกปีละ 30,000-50,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ดินรายแปลงทั่วประเทศมีอยู่ 32 ล้านแปลง ขณะนี้กรมธนารักษ์ประเมินราคาที่ดินรายแปลงได้เพียง 8 ล้านแปลงเท่านั้น ทั้งนี้การประเมินราคาที่ดินรายแปลงนั้น แม้จะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างโดยตรงก็ตาม เพราะกฎหมายกำหนดให้จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นรายแปลงหรือรายโฉนด แต่หาก พ.ร.บ.ดังกล่าวยังไม่ถูกนำมาใช้ในเร็ววันนี้ กรมธนารักษ์ก็ต้องเดินหน้าประเมินราคาที่ดินรายแปลงให้สำเร็จเหมือนเดิม เพราะการประเมินราคาที่ดินรายแปลงนั้น จะมีความแม่นยำสูง แตกต่างจากอดีตโดยเฉพาะพื้นที่ในต่างจังหวัดที่ส่วนใหญ่กำหนดเป็นรายบล็อก โดยมีการบอกจุดพิกัดของที่ดินแบบหยาบๆ เช่น ด้านหน้าติดถนน ด้านหลังติดภูเขาหรือทางรถไฟ เป็นต้น ทำให้การประเมินราคาที่ดินไม่สะท้อนความเป็นจริง “ปัจจุบันประเทศไทยยังมีที่ดิน ตารางวาละ 100 บาท เพราะเป็นการประเมินที่ดินแบบรายบล็อก แต่หากกรมธนารักษ์มีการลงทุนโดยสำรวจพื้นที่ทั่วประเทศและมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบดาวเทียม การลงพื้นที่สำรวจจริง คาดว่าที่ดินตารางวาละ 100 บาทไม่น่าจะเห็นอีกต่อไป
นอกจากนี้ การประเมินราคาที่ดินแบบรายแปลง ยังทำให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆของกรมที่ดินสูงขึ้นด้วย เพราะราคาประเมินที่ดินรายแปลง เชื่อว่าจะทำให้ราคาที่ดินทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30% ซึ่งจะส่งผลให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ของกรมที่ดินจากเดิมที่กรมที่ดินมีรายได้ปีละ 20,000-30,000 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นแตะ 100,000 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวยังไม่นับรวมรายได้จากการเก็บภาษีของกรมสรรพากรที่เพิ่มขึ้นด้วย นายจักรกฤศฏิ์กล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณ 2559 กรมธนารักษ์ได้ทำเรื่องของบประมาณ ดังกล่าวไปแล้ว แต่ถูกสำนักงบประมาณตัดทิ้ง จึงได้ทำเรื่องของบกลางจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง แต่ก็มีความล่าช้ามาก อย่างไร ก็ตาม ในปีงบประมาณ 2558 กรมธนารักษ์ได้รับงบประมาณในการประเมินที่ดินรายแปลงมาแล้ว 200 ล้านบาท สามารถประเมินที่ดินรายแปลงได้ 8 ล้านแปลง และคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะสำรวจได้เพิ่มขึ้นอีก 4 ล้านแปลง รวมเป็น 12 ล้านแปลง และในปีงบประมาณ 2559 หากได้งบประมาณเพิ่มเติมก็คาดว่าจะประเมินที่ดินรายแปลงได้ทั้งหมด 32 ล้านแปลง

การตรวจสอบราคาประเมินที่ดิน ทุกวันนี้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศน์ในส่วนงานราชการต่างๆ ได้รับพัฒนาไปมาก เพราะภาครัฐหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญ จึงทำให้ระบบการสืบค้นข้อมูลทำได้ง่าย สะดวกสบายยิ่งขึ้น วันนี้ TerraBKK ขอนำทุกท่านไปพบกับ ระบบเผยแพร่ราคาประเมินอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การควบคุมดูแลของ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง...


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ไทยรัฐออนไลน์