ไนท์แฟรงค์เผยผลสำรวจการครอบครองพื้นที่สำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2558 "ค่าเช่า ยังคงปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดในพิจารณา"
ไนท์แฟรงค์ เผยผลสำรวจการครอบครองพื้นที่สำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2558 รวมข้อมูลจากบริษัท 270 แห่ง ด้านความต้องการพื้นที่สำนักงานและการต่อสัญญาเช่า ระบุ "ค่าเช่า ยังคงปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดในพิจารณา"
ไนท์แฟรงค์ ผู้นำระดับโลกด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ณ วันนี้เปิดผลสำรวจ การครอบครองพื้นที่สำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2558 รวมผลสำรวจจากบริษัท 270 แห่ง จาก 8 อุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดังต่อไปนี้
- ด้านให้คำปรึกษา
- สินค้าเพื่อผู้บริโภค
- บัญชี/ กฎหมาย/การเงิน
- การผลิต / การเกษตร
- เภสัชกรรม / เทคโนโลยีชีวภาพ /สุขภาพ
- ปิโตรเลียม/ พลังงาน
- ภาครัฐ / องค์กรพัฒนาเอกชน
- เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มร. รอสส์ คริดเดิลล์ หัวหน้าฝ่ายโกลบอลคอร์เปอร์เรตเซอร์วิส ไนท์แฟรงค์เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "นี่เป็นครั้งที่สองที่เราจัดทำการสำรวจการครอบครองพื้นที่สำนักงานและเป็นอีกครั้งที่ผลลัพธ์ที่ได้ เป็นข้อมูลเชิงลึกด้านการใช้งานและวางแผนพื้นที่ของผู้ใช้สำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งยังคงสอดคล้องกับผลสำรวจของเราในปีที่ผ่านมา ค่าเช่ายังคงเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดในการพิจารณา เรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เน้นการจัดระบบการทำงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้น พื้นที่โดดเด่นที่สุดคือในประเทศออสเตรเลียและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ผลสำรวจของเรายังสนับสนุนหลักการที่ว่า ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตอยู่ตลอด มากกว่า 60% ของผู้ตอบแบบสำรวจเห็นว่ามีอัตราเพิ่มขึ้นของจำนวนพนักงานในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเทียบเป็นสัญญาณดีในภูมิภาค”
“เราขอแนะนำให้ผู้เช่าเริ่มต้นกระบวนการตัดสินใจเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีล่วงหน้าก่อนหมดสัญญาเช่า ทั้งนี้จะทำให้มีเวลาเพียงพอในการตรวจสอบตลาด การเจรจาข้อตกลงการต่ออายุ และถ้าจำเป็น จะยังมีเวลาเพียงพอในการขนย้ายไปยังสถานที่ใหม่ โปรดจำไว้ว่า ผู้ครอบครองพื้นที่ในหลายๆชั้นอาคาร หรือในตลาดที่มีตัวเลือกจำกัดควรเริ่มต้นกระบวนการนี้อย่างเร็วที่สุด”
ไฮไลท์ผลสำรวจ จัดอันดับจากคุณลักษณะของอาคารสำนักงาน- ผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดจาก ภาครัฐ / องค์กรพัฒนาเอกชน เห็นว่า ค่าเช่า เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุด จากการสำรวจปัจจัย 9 หลัก พวกเขายังเห็นว่า ภาพลักษณ์ มีความสำคัญน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่นทั้งหมด
- สำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเห็นว่า สิ่งอำนวยความสะดวก มีความสำคัญมากกว่า ภาพลักษณ์ ซึ่งสะท้อนรสนิยมแบบ campus-style business space พวกเขายังเลือกที่ตั้งที่ใกล้กับพนักงาน หรืออยู่ใกล้ระบบขนส่งมวลชน
- ในขณะที่ค่าเช่าเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาโดยทั่วไป ปัจจัยท้องถิ่นอื่นๆอาจมีความสำคัญมากกว่าในบางประเทศ - การจราจรติดขัดบ่อยครั้งทำให้ประเทศไทยให้คุณค่าความสำคัญด้านระยะทางที่ใกล้กับ ระบบขนส่งมวลชนมากกว่าในประเทศอื่นๆ - ความปลอดภัย เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับองค์กรธุรกิจในไต้หวัน - พื้นที่สีเขียว ถูกจัดว่ามีความสำคัญน้อยมากจากทั่วทั้งภูมิภาค ยกเว้นในมาเลเซีย
มร. แท ยัง เคียน กรรมการบริหารฝ่ายตัวแทนนายหน้า ไนท์แฟรงค์มาเลเซีย กล่าวว่า “บริษัทข้ามชาติหลายแห่งในมาเลเซีย ยอมรับว่า อาคารที่ประหยัดพลังงานสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทในระยะยาวได้”
ความพึงพอใจของอาคารสำนักงาน- ความพึงพอใจอยู่ในระดับสูงสุดในสถานที่ที่มีค่าเช่าแพงที่สุด เช่น ฮ่องกงและสิงคโปร์
- รกิจด้านพลังงานและการเงิน / บัญชี / กฎหมาย มีความพึงพอใจมากที่สุดในพื้นที่สำนักงานของพวกเขา ในขณะที่ธุรกิจของภาครัฐ / องค์กรพัฒนาเอกชนมีความพึงพอใจน้อยที่สุด
- 30% จากผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดให้ความเห็นว่า อาคารในปัจจุบันของพวกเขามีความสมบูรณ์เหมาะสมแก่ธุรกิจของพวกเขา ในทางตรงกันข้ามมีเพียงประมาณ 5% จากผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดที่ไม่พอใจกับอาคารในปัจจุบันของพวกเขา
- ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เริ่มเตรียมการในช่วงหกเดือนสุดท้ายก่อนหมดสัญญา คิดเป็นจำนวนมากถึง 42% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด ส่วนระยะเวลาที่ได้รับความนิยมถัดมาคือ ช่วง 12 เดือนก่อนหมดสัญญา คิดเป็น 35% ของผู้ตอบแบบสำรวจ
- มีเพียง 9% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดที่เริ่มการเตรียมตัว 24 เดือนก่อนหมดสัญญา
- ในประเทศออสเตรเลีย การเริ่มต้นที่เร็วที่สุดคือ 17 เดือนก่อนหมดสัญญา
มิสโจแอนนา กอร์ดอน เนชั่นแนลไดเรคเตอร์ฟอร์โกลบอลคอร์เปอร์เรตเซอร์วิส ไนท์แฟรงค์ออสเตรเลีย อธิบายว่า “ในประเทศออสเตรเลีย การวางแผนขั้นต้นก่อนหมดสัญญาถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัย 2 ประการ ได้แก่ ประการแรก คือ ระยะเวลานานในการจัดซื้อเฟอร์นิเจอร์ในภูมิภาคนี้ ประการที่สอง คือ บริการที่ปรึกษาแก่ผู้เช่า การร่วมงานระหว่างโปรเจคแมเนจเมนท์และทีมตัวแทนจากผู้เช่า ซึ่งส่วนมากได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่องค์กรผู้ครอบครอง”
การเข้าซื้อพื้นที่และแรงงาน ทุกประเทศโดยรวมพื้นที่
- 38% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด ซื้อหรือเช่าพื้นที่เพิ่มในช่วง 12 เดือนสุดท้าย ในขณะที่ 9% ทำการคืนพื้นที่ส่วนเกิน เรื่องนี้เกิดขึ้นอยู่ตลอดในธุรกิจอุตสาหกรรมด้านพลังงานและอุตสาหกรรมสินค้าเพื่อผู้บริโภค
- 53% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด คงจำนวนพื้นที่เช่าไว้เท่าเดิม
- ธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมเภสัชกรรมแสดงผลการขยายตัวขนาดใหญ่ที่สุด โดยประมาณที่ 52% และ 50% ตามลำดับ
แรงงาน
- 60% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด คาดการณ์ว่าจะมีอัตราเพิ่มของจำนวนพนักงานในช่วง 12 เดือน ข้างหน้า ในขณะที่คาดว่า 6% จะมีจำนวนลดลง
- 34% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด คาดว่าอัตราจำนวนพนักงานจะคงเท่าเดิม
- ผลลัพธ์จากการลดลงของราคาด้านพลังงานในปีที่ผ่าน ทำให้มีเพียง 23% ของธุรกิจในอุตสาหกรรมพลังงานคาดการณ์อัตราเพิ่มของจำนวนพนักงานใน 12 เดือนข้างหน้า
- 58% ของผู้ตอบแบบสำรวจชาวอินเดีย อธิบายว่าพวกเขาได้ทำการซื้อหรือเช่าพื้นที่เพิ่มในช่วง 12 เดือนสุดท้าย
- 79% ของผู้ตอบแบบสำรวจชาวอินเดีย คาดการณ์อัตราเพิ่มของจำนวนพนักงานใน 12 เดือนข้างหน้า
- สัญญาการปฏิรูปได้สร้างมุมมองในแง่ดีในประเทศอินเดีย จัดว่ามีความต้องการสูงสุดทั้งในด้านพื้นที่สำนักงานและแรงงานในภูมิภาค ผลลัพธ์นี้ยังเป็นการปรับปรุงที่เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่รายงานผลสำรวจปี 2557
ตารางการพิจารณาหรือการดำเนินงานด้านการประหยัดค่าใช้จ่าย
- "ไม่มีในตัวเลือกข้างต้น" เป็นตัวเลือกที่ถูกเลือกมากที่สุดจากจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดในด้านความคิดริเริ่มการประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อลดภาระค่าเช่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจด้านการเงิน / บัญชี / กฎหมาย อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจด้านให้คำปรึกษาได้เริ่มนำวิธีการใหม่ๆมาใช้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย โดย 15% ของผู้ตอบแบบสำรวจในอุตสาหกรรมนี้เลือก "ไม่มีในตัวเลือกข้างต้น"
- แม้เป็นประเทศที่ค่าเช่าสูงที่สุดในภูมิภาค ฮ่องกงให้ความสนใจด้านการประหยัดค่าใช้จ่ายน้อยมาก โดย54% ของผู้ตอบแบบสำรวจจากฮ่องกงเลือก "ไม่มีในตัวเลือกข้างต้น"
มร. เนลสัน แลม ผู้อำนวยการฝ่ายตัวแทนนายหน้า ไนท์แฟรงค์ฮ่องกง อธิบายว่า “ค่าใช้จ่ายที่สูงในตกแต่งเพิ่มเติมของสถานที่ในฮ่องกงมีราคาประมาณ US$ 100 ต่อตารางฟุต ทำให้ยากต่อการปรับปรุงพื้นที่ให้พอเพียงในการเพิ่มประสิทธิภาพตลอดจนการวางแผนพื้นที่ทำงานอย่างเหมาะสม ดังนั้นบริษัทส่วนใหญ่เลือกที่จะย้ายที่ตั้งหรือแยกการดำเนินการเป็นอย่างแรก แต่แม้นี่เป็นสิ่งที่มีความท้าทายสูง อัตราว่างของพื้นที่ในปัจจุบันในภาคกลางของฮ่องกงมีจำนวนต่ำกว่า 3%. "
- การจัดโปรแกรมการทำงานแบบยืดหยุ่น เช่น ในประเทศออสเตรเลีย ผู้ตอบแบบสำรวจ82% นำวิธีการมาใช้ปฏิบัติจริง
- ไม่น่าเชื่อเลยว่า ไม่มีรายงานจากผู้ตอบแบบสอบถามชาวฮ่องกงที่ใช้โปรแกรมการทำงานแบบยืดหยุ่น แม้ว่ามีบริษัทข้ามชาติจำนวนมากจากทั่วโลกตั้งอยู่
- บริษัทส่วนใหญ่ที่ใช้ระบบการทำงานแบบยืดหยุ่น เป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมโดยทั่วไป เช่น ธุรกิจด้านให้คำปรึกษา ธุรกิจด้านเภสัชกรรม และธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- จากจำนวนองค์กรที่ยอมรับระบบการทำงานแบบยืดหยุ่นทั้งหมด ส่วนมากจะให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือจากหลายๆสถานที่