บิ๊กบอส Century 21 “กิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์” จับมือกับ “โยโกฮาม่า โฮลดิ้ง” ยักย์ใหญ่ที่ออกแบบติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์จากญี่ปุ่นรุกตลาดประเทศไทย รับกระแสทุกธุรกิจมุ่งสู่พลังงานทดแทน ชูนวัตกรรม “Nodatex” ระบบ Hybrid System เป็นนวัตกรรมระบบการติดตั้งแบบ Original Hybrid ที่นำเอาเทคนิคการคัดสรรอุปกรณ์แต่ละชิ้นมาประกอบเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว และให้เกิดคุณภาพสูงที่สุดเกี่ยวกับการติดตั้งฐานระบบPVที่มีคุณภาพและมั่นคงสูงสุด เจาะทุกตลาดทั้งที่อยู่อาศัยแนวสูง-แนวราบ, โรงงานอุตสาหกรรม, โรงแรม ,รีสอร์ท ,โซลาร์ ฟาร์ม ฯลฯ เล็งนำธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ไทยภายใน 3 ปี

นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เซ็นจูรี่21 (ประเทศไทย) จำกัด (Mr. Kitisak Jampathipphong, Chief Executive Officer of Century 21 (Thailand) Co Ltd )เปิดเผยว่า ในการลงนามความร่วมมือกับบริษัทโยโกฮาม่า โฮลดิ้ง จากประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นการลงทุนส่วนตัว ด้วยเพราะเห็นว่าบริษัทโยโกฮาม่าฯมีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งส่วนตัวได้เล็งเห็นว่ากระแสของโลกนั้นให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดหรือ Clean Energy และประเทศไทยเองรัฐบาลก็เริ่มให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการลดใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นในครัวเรือน หรือการนำพลังงานทดแทนมาใช้ จากจุดนี้เองโดยส่วนตัวที่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจอสังหาฯและมีความสัมพันธ์กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำและพันธมิตรกับบริษัท โยโกฮาม่า โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์มามากว่า 8 ปีมีความสนใจในการนำนวัตกรรมระบบพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพของทางญี่ปุ่นมาติดตั้งในประเทศไทย

“การร่วมมือกันระหว่างผมกับโยโกฮาม่าจะเป็นการเสริมจุดแข็งซึ่งกันและกัน” นายกิติศักดิ์ กล่าว พร้อมกับให้ความเห็นต่อ ว่าธุรกิจดังกล่าวดำเนินการภายใต้บริษัทโยโกฮาม่า โฮลดิ้ง เอ็นเนอร์ยี่(ประเทศไทย) จำกัด แม้การร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นในนามส่วนตัวแต่ก็เป็นอีกบทสะท้อนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าจากนี้ไปเซ็นจูรี่ 21(ประเทศไทย)ในฐานะโบรกเกอร์อสังหาฯกำลังนำอสังหาฯมุ่งสู่ กรีน เซฟวิ่ง โดยจะนำเสนอทางเลือกให้คู่ค้าหรือพันธมิตรที่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทฯได้เข้าไปมีส่วนร่วมรับบริหารงานขายและการตลาดให้ เพราะเชื่อว่านั่นจะเป็นอีกโอกาสในการสร้างและดูแลให้ที่อยู่อาศัย หรือ อาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท หรือ โรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง มูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นได้ทั้งผู้บริโภคที่เป็นเจ้าของบ้านหรือผู้ที่มาใช้บริการ รวมถึงประเทศชาติก็จะได้ประโยชน์จากการให้ความร่วมมือของภาคเอกชนที่หันมาใส่ใจ Clean Energy ที่รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน

ด้านนายทาคามิชิ มะสึดะประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โยโกฮาม่า โฮลดิ้งจำกัด จากประเทศญี่ปุ่น(Mr.Takamichi Mastsuda Chief Executive Office Yokohama Holding Energy Co.,Ltd.) เปิดเผยว่าบริษัท บริษัท โยโกฮาม่า โฮลดิ้ง เอ็นเนอร์ยี่ นั้น ทำเกี่ยวกับการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์มามากกว่า 8 ปี มีการติดตั้งให้กับบ้านเรือนที่ญี่ปุ่นกว่า 1,000 ครัวเรือนต่อปี จนถึงปัจจุบันได้มีการติดตั้งมามากกว่า 10,000 ยูนิต ทั้งโซลาร์ รูฟ( Solar roof) และ โซลาร์ ฟาร์ม (Solar farm)

ด้วยประสบการณ์และประสิทธิภาพของบริษัทฯที่มีการจัดการแบบครบวงจร ทั้งการบริหารทางด้านบุคคลากร และพัฒนาคุณภาพของผลงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการนำนวัตกรรมการติดตั้งชั้นนำที่มีความสวยงามและทนต่อสภาพอากาศของทางญี่ปุ่นที่เรียกว่า”NODATEX” เป็นระบบแบบ Hybrid System มาใช้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมชั้นนำเกี่ยวกับการติดตั้งตั้งฐานระบบ PV(Photovoltaic) ที่มีคุณภาพและความมั่นคงในการติดตั้งสูงสุด และทางบริษัทฯยังมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างแน่นแฟ้นกับบริษัท TOSHIBA, HITACHI และบริษัทชั้นนำทางด้านการไฟฟ้าอื่นๆอีกมากมาย ทำให้บริษัทติดอันดับ1ใน50 บริษัทที่มียอดขาย PV สูงสุดในประเทศญี่ปุ่นได้ภายในระยะเวลาเพียง 2-3 ปี ที่ผ่านมา

บริษัทโยโกฮาม่ามีความตั้งใจที่จะขยายกิจการระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยซึ่งมีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้ง ไทยและญี่ปุ่นยังมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างช้านาน บริษัทโยโกฮาม่าจึงมีความตั้งใจในการนำระบบพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์มาติดตั้งในประเทศไทยเป็นที่แรก เพื่อขยายกลุ่มธุรกิจทางด้านการอนุรักษ์พลังงานให้กว้างขวาง และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือน ซึ่งสอดคล้องและไปในทิศทางเดียวกับคุณกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทางบริษัท เซ็นจูรี่21 ที่มีชื่อเสียงชั้นนำทางด้านอสังหาริมทรัพย์มามากกว่า 20 ปี ในด้านการประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุน การจัดการการตลาด และพัฒนาธุรกิจ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงได้มีการจับมือกันระหว่างผู้บริหารของเซ็นจูรี่ 21กับบริษัท Yokohama Holdings เพื่อลุยตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการทางด้านบ้านจัดสรร,คอนโดมีเนียมที่เริ่มมีการนำพลังงานสะอาดมาใช้

ในหลักการดำเนินธุรกิจของบริษัทโยโกฮาม่า ยึดนโยบายคือเน้นไปที่คุณภาพของผลงานตามมาตรฐานญี่ปุ่น ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน สวยงาม พร้อมบริการครบวงจร แต่ต้นทุนในการติดตั้งต่ำ รวมถึงรับประกันการรั่วซึมของหลังคาสูงสุดมากถึง 20 ปี

สำหรับผลงานของทางบริษัทฯที่ผ่านมาในประเทศไทยได้มีการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับโชว์รูมโตโยต้า จังหวัดปราจีนบุรีมาแล้วจำนวน 74 kW และกำลังออกแบบการติดตั้งโซลาร์รูฟให้กับทางโชว์รูมโตโยต้า จังหวัดกบินทร์บุรี และทางบริษัทยังมีโครงการที่กำลังรอติดตั้งอยู่อีกมากมายให้กับทางโรงงานชั้นนำในประเทศญี่ปุนที่อยู่ในเขตนิคมโรจนะในจังหวัดอยุธยา โดยขณะนี้มี 3 โรงงาน ที่ได้ให้ความสนใจและกำลังอยู่ในช่วงศึกษาและวางแผนงาน ในจำนวน 1 เมกาวัตต์ ต่อ 1 ไซต์งาน แล้วยังมีแผนที่จะเข้าร่วมในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ 600 เมกาวัตต์ โดยที่ใบอนุญาตจะออกภายในสิ้นปี2558 และก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ปี2559 โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งในการก่อสร้างอยู่ที่ 10% หรือประมาณ 60 เมกาวัตต์ มูลค่าการก่อสร้างจะอยู่ที่ 3000ล้านบาท ตลอดจนทางบริษัทได้ริเริ่มพูดคุยกับทางบริษัทชั้นนำในประเทศญี่ปุนถึงความร่วมมือในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ,Bio Mass ซึ่งโครงการเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่ทางภาครัฐให้การสนับสนุนในอนาคต รวมใปถึงโครงการบ้านจัดสรร ต่างๆที่จะเกิดขึ้นภายในอนาคตอันใกล้ ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้จากการร่วมมือกับ Century21 ซึ่งการร่วมมือกันนี้มีเป้าหมายที่จะนำเอาบริษัทโยโกฮาม่า โฮลดิ้ง เอนเนอร์ยี่(ประเทศไทย) จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน3ปี