ไลฟ์ วัน ไวร์เลส

Life ๑ Wireless ที่สุดของความหรูหราสมบูรณ์แบบ บนศูนย์กลางมหานครสไตล์ Modern Thai Colonial

กลับมาสร้างความฮือฮาอย่างต่อเนื่อง หลังความสำเร็จจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ Life ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ เอาใจวิถีคนเมือง Platform of Success กับโครงการ Life ลาดพร้าว เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยังไม่ทันข้ามปีค่ายอสังหาฯ หัวครีเอตอย่าง เอพี (AP) ก็มาสร้างทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อีกครั้ง กับ “Life ๑ Wireless” (ไลฟ์ วัน ไวร์เลส) ลักซ์ชัวรี่คอนโดสไตล์ Modern Thai Colonial หนึ่งเดียวบนถนนวิทยุ ที่ผสานความเป็น Modernity สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่พร้อมกับ Digital Life ที่รองรับนวัตกรรมล้ำสมัยภายในโครงการ หลอมรวมเสน่ห์ความเป็น Heritage ของถนนวิทยุ มาตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์บนที่สุดของทำเลศูนย์กลางของมหานครที่ยากจะได้เป็นเจ้าของ 

Life ๑ Wireless (ไลฟ์ วัน ไวร์เลส) เป็นสุดยอดโครงการมูลค่าโครงการกว่า 6,400 ล้านบาท กับจำนวน 1,344 ยูนิต และร้านค้า 2 ร้าน สูง 43 ชั้น บนพื้นที่ 4 ไร่กว่า จำนวนที่จอดรถ 566 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน คิดเป็น42%) โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ปลายปี 2562 เฉลี่ยราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้น 155,000 บาท 

ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ Life หรูหราที่สุดเท่าที่ AP เคยทำมาก็ว่าได้ เพราะเป็นการรวมจุดแข็งถึง 5 องค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น

• คอนโดมิเนียมที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิต การทำงาน และไลฟ์สไตล์
• ตั้งบนที่สุดของทำเลศูนย์กลางมหานครที่ต้องการมากที่สุด
• โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์การตกแต่งที่คงเสน่ห์ความเป็น Heritage ไว้อย่างงดงามในสไตล์ Modern Thai Colonial ซึ่งหาไม่ได้ในทำเลนี้ 
• แวดล้อมด้วยความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่
• ครบครันด้วยพื้นที่ส่วนกลางรองรับชีวิตดิจิตอลด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย 

ส่วนอินดีเทลจะมีอะไรบ้าง ตามไปชมด้วยกันเลย  

ที่สุดของความสมบูรณ์ ในฐานะศูนย์กลางคมนาคมครบครัน

Life ๑ Wireless ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ตัวโครงการตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือ ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 600 เมตร ด้วยจุดเด่นของถนนเชื่อมต่อกับถนนหลักหลายสายระหว่างถนนเพชรบุรี-สุขุมวิท-พระราม4-สาทร อีกทั้งเป็นทำเลที่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนเพชรบุรี เพียง 250 เมตร และทางด่วนสุขุมวิทระยะ 800 เมตร จึงจัดว่าสะดวกสำหรับคนใช้รถใช้ถนนในการคมนาคมเป็นหลัก 

นอกจากนี้ยังใกล้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเพลินจิต โดยอยู่ห่างจากตัวโครงการเพียง 600 เมตร และยังตั้งอยู่ติดกับท่าเรือสะพานวิทยุอีกด้วย 

ความพร้อมด้านการเดินทางทุกรูปแบบนี้ เชื่อว่าถูกใจคนเมือง ที่สำคัญทำเลใจกลางเมืองที่ตั้งอยู่บนศูนย์กลางย่านธุรกิจ แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งสถานทูต สถานกงสุล และศูนย์การค้าระดับไฮเอนด์ อาทิ Central Embrassy, Central ชิดลม, Gaysorn Village และ Central World รวมไปถึงโรงพยาบาลชั้นนำอย่างบำรุงราษฎร์ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย เรียกว่าไม่ว่าจะก้าวไปทางไหน ก็ตอบโจทย์การใช้ชีวิตไฮเอนด์ครบทุกด้าน อีกทั้งราคาที่ดินปัจจุบันของย่านถนนวิทยุติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ทำให้บริเวณนี้เป็นทำเลที่อยู่อาศัยในระดับลักซ์ชัวรี่แทบทั้งสิ้น จึงการันตีได้ถึงการส่งมอบเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น ที่มีแต่มูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ 

อัตลักษณ์ใหม่ด้วยดีไซน์ Modern Thai Colonial

  ความโดดเด่นอีกประการที่ทำให้ Life ๑ Wireless ต่างไป คือ ตั้งอยู่ถนนวิทยุ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นถนนที่มีมนต์เสน่ห์เฉพาะตัว ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุแห่งแรกของประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 อันเป็นที่มาของชื่อถนนวิทยุแห่งนี้ บวกกับบรรยากาศความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่อายุกว่าร้อยปีตลอดสองข้างทางสะท้อนความเป็น Heritage จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจดีไซน์คอนโดมิเนียม “Life ๑ Wireless” ออกมาในรูปแบบ Modern Thai Colonial ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากยุโรป มาผสมผสานกับศิลปะวัฒนธรรมของไทย มาเป็นงานออกแบบที่มีความเรียบหรูแต่โมเดิร์นอยู่ในที ภายใต้โทนสีหลัก คือ ขาวตัดด้วยสีดำ และเพิ่มความหรูหราด้วยสีทอง 

จากการผสมผสานสไตล์ที่แตกต่างอย่างลงตัวนี้เอง จึงเกิดเป็นความแตกต่างไม่เหมือนใครของคอนโดในย่านนี้แล้ว นับเป็นการยกระดับเอกลักษณ์ใหม่ของคอนโดแบรนด์ Life สู่ความเป็นคอนโดระดับลักซ์ชัวรี่อย่างแท้จริง

ประสบการณ์การใช้ชีวิต ประหนึ่งโรงแรมไฮเอนด์

  ถือเป็นครั้งแรกที่ AP มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตบนคอนโดแบรนด์ Life ให้มีความรู้สึกเหมือนได้อยู่โรงแรมระดับไฮเอนด์ ตั้งแต่การออกแบบจุด Drop Off ขนาดใหญ่ ด้วยแนวคิดการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความงดงามของใบโพธิ์ สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็น Heritage ให้เด่นชัดในสไตล์โมเดิร์น 

บริเวณรับแขก Semi-outdoor Lobby พร้อมพื้นที่ร้านค้า 2 ร้าน ได้รับการตกแต่งอย่างเรียบหรูทันสมัยตลอดทั้งชั้น ด้วยวัสดุหินอ่อนสีขาวคุณภาพเดียวกับที่ใช้กันในคอนโดหรูตั้งแต่พื้นจรดผนัง ร่วมด้วยวัสดุไม้สีเข้ม ที่นำมาผสมกับเส้นสายที่มีรายละเอียดของงานคลาสสิค สร้างลวดลายแสงเงาที่แปลกตา สะท้อนภาพลักษณ์ในอดีตของถนนวิทยุและความเป็นโมเดิร์นไทยสไตล์อย่างชัดเจน 

การจัดวางพื้นที่ใช้สอยจะถูกแบ่งแยกด้วยที่นั่งพักคอยแบบ Sunken รับวิวที่เปิดโล่งแบบ Panorama เพื่อรับชมธรรมชาติจากสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ด้านนอกอาคาร ซึ่งเมื่อเดินถัดเข้าไปด้านในจะถึงส่วนของ Grand Lobby ซึ่งแยกไว้สำหรับลูกบ้าน โดยจะมีทั้งห้องนิติบุคคล Mail Room ห้องน้ำแยกชาย-หญิง ห้องสมุด และ Co-working Space แบบ Multi-purpose ที่ยังคงสามารถรับชมวิวสวนด้านนอกได้ทุกมุม

เชื่อมโยงชีวิตผู้อยู่อาศัยยุคใหม่กับงานด้วย Co-working Space และ Application 

การเข้าถึงไลฟ์สไตล์ชีวิตคนยุคใหม่ คือ ปรัชญาของ AP พื้นที่ส่วนกลางของ Life ๑ Wireless จึงมอบพื้นที่ Co-working Space ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล้ำสมัย ที่จะมาช่วยสร้าง Creativity ให้ชีวิตการทำงานได้อย่างไม่สิ้นสุด รองรับระบบ Internet Wi-Fi ในพื้นที่ของส่วนกลางทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่สีเขียวภายนอกอาคาร เพื่อให้ลูกบ้านได้เชื่อมต่อเข้าสู่โลกดิจิตอล โดยไม่ยึดติดกับกรอบเวลาและสถานที่ 

นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตคนเมืองเต็มรูปแบบ ด้วย AP COMMUNITY APPLICATION เพื่อการใช้งานเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ในโครงการทั้งห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยกว่าเดิม ผ่านปลายนิ้วด้วยแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน อาทิ 

• Smart Access สมาร์ทโฟนเป็นเหมือนคีย์การ์ด สั่งเปิด-ปิดประตูได้ตั้งแต่ประตูทางเข้าคอนโดมิเนียมและลิฟต์โดยสาร

• Smart Home ควบคุมการเปิด-ปิดประตูห้องพัก รวมถึงรองรับการเปิด-ปิดระบบไฟฟ้าในห้องส่วนตัว

ใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น กับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ 

เดิมทีที่ดินพื้นนี้ตระหง่านด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่นับสิบต้น อายุกว่า 100 ปี ด้วยความชาญฉลาดของ AP ที่มองว่าต้นไม้คือมรดกล้ำค่า Life ๑ Wireless จึงอนุรักษ์เอาไว้เพื่อสร้างความร่มรื่นโดยรอบครบทุกต้นบริเวณสวนส่วนกลางชั้น 1 ซึ่งมีพื้นที่กว่า 1 ไร่ อีกทั้งเพิ่มเติมด้วยพรรณไม้หอมนานาชนิดและธารน้ำขนาดใหญ่ เพื่อช่วยดูดซับมลพิษทางอากาศ ซึ่งลูกบ้านสามารถออกมานั่งที่ Pavilion หรือ Semi-outdoor Lobby รับอากาศบริสุทธิ์ อบอวลด้วยกลิ่นไม้หอมและรู้สึกเย็นสบายจากผืนน้ำได้ตลอดทั้งวัน

  ที่สำคัญทางโครงการยังออกแบบแลนด์สเคป ในรูปแบบใหม่ ยกระดับแนวดินตามริมขอบรั้วให้สูงกว่าด้านใน เมื่อรวมกับต้นไม้ใหญ่จะช่วยลดเสียงสัญจรของเรือและรถบนทางด่วนอีกด้วย อีกทั้งลูกบ้านยังจะได้ซึมซับกับทัศนียภาพของธรรมชาติแบบเต็มตาเมื่อมองผ่านจาก Lobby ในตัวอาคาร

เปิดรับวิวดีที่สุด 4 ทิศ เต็มอิ่มใต้เวิ้งฟ้า-วิวเมือง 360 องศา 

เท่านั้นไม่พอ Life ๑ Wireless ยังคิดมาแล้ว ถึงการจัดวางอาคารในทรงรูปตัว S เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวของการอยู่อาศัย โดยการวางผังโครงสร้างอาคารในแนวเฉียง ช่วยทำให้ทุกยูนิตอาศัยและทุกมุมของตึกสามารถเปิดรับวิวได้โดยไม่บล็อคจากอาคารโดยรอบ ซึ่งแต่ละมุมของอาคารจะมองเห็นวิวที่แตกต่างกัน โดยลูกบ้านไม่ต้องกังวลต่อเสียงรบกวนจากรถที่สัญจรไปมา เนื่องจากมีระยะห่างอาคารและความสูงของอาคารจอดรถก็ยังสูงกว่าทางด่วนนั่นเอง

ถ้ายังชมวิวไม่อิ่มพอ แนะนำชั้น 42 และ 43 กับ Double Rooftop Facilities ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันเป็นผืนเดียว ซึ่งลูกบ้านสามารถขึ้นมาโดยใช้ลิฟท์ฝั่งด้านในเพียงฝั่งเดียวเท่านั้น โดยกดขึ้นมาที่ชั้น 42 ทางด้านขวาจะได้พบกับ Social Club, Theatre Lounge และ Sky Bar ทันที ที่ใช้ทำกิจกรรมผ่อนคลายหรือสังสรรค์ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor โดยสามารถจองเพื่อการใช้งานส่วนตัว รองรับกิจกรรมทุกไลฟ์สไตล์เหนือระดับ

ส่วนทางด้านซ้ายเป็นส่วนของ Changing Room และ Storage ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ AP มอบสิทธิประโยชน์ในพื้นที่ส่วนกลางรูปแบบใหม่กับตู้เก็บของอเนกประสงค์ สำหรับลูกบ้านที่ต้องการพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อเก็บของส่วนตัวแทนการเก็บในห้องพักอาศัย เช่น จักรยานคันโปรด หรือคอลเลคชั่นสะสม ซึ่งลูกบ้านที่สนใจสามารถติดต่อขอเช่าบริการตู้เก็บของนี้ได้จากนิติบุคคลนั่นเอง

  ขึ้นมาอีกชั้นที่ 43 ก็จะได้พบกับห้องฟิตเนสและ Panoramic Dazzling Pool สระว่ายน้ำ Lap Pool ขนาดยาวกว่า 35 เมตร ซึ่งสามารถใช้ออกกำลังกายได้อย่างสบายๆ พร้อมมุมจากุซซี่ ให้ลูกบ้านได้แหวกว่ายและนั่งดื่มด่ำไปกับวิวเมืองระยิบระยับยามค่ำคืนอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนั้นโดยรอบยังมีทางเดินเชื่อมไปยังHigh Garden Promenade สวนลอยฟ้าแบบเล่นระดับของชั้น 42 ที่อยู่อีกฝั่งของตัวอาคาร ที่มีทั้ง Vista Terrace สะพานกระจกที่ยื่นออกไปให้ได้สัมผัสบรรยากาศวิวเมืองแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ลานกิจกรรมอเนกประสงค์ และมุมพนักพิงตาข่ายใต้ร่มไม้ที่สามารถเอนกายนอนเล่นแบบสบายๆ

พื้นที่พักอาศัยตอบโจทย์การใช้งานมัลติฟังก์ชั่น

เดินเล่นภายในโครงการแล้ว เข้ามาดูในห้องพักกันบ้าง โดยลักษณะห้องชุดของโครงการ Life ๑ Wireless มีให้เลือกถึง 4 รูปแบบ ซึ่งในส่วนของ Residential จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 4 – 41 มีตั้งแต่

• Studio Type ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 24 – 28 ตารางเมตร
• ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 35–43 ตารางเมตร
• ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 45-63 ตารางเมตร

สำหรับยูนิตไฮไลท์ของโครงการ อยู่ที่ขนาด 35 ตารางเมตร หรือ 1 Bed Plus ที่ดีไซน์มาเฉพาะจากทางเอพี กับ Re-Configurable Room Layout ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนสเปชห้องพักส่วนตัวได้ดังใจได้อีก 1 มุม ไม่ว่าจะเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ห้องทำงานส่วนตัว ห้องเก็บของสะสม หรือห้องเล่นโยคะ เป็นต้น เป็นการดีไซน์พื้นที่ที่มอบอิสระการใช้ชีวิตได้มากกว่าโดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ขนาดเท่าเดิม ทุกยูนิตของโครงการมาแบบ Fully Fitted เฟอร์นิเจอร์ที่มอบให้มีชุดครัว พร้อมเครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัว Sink ล้างจาน Top หินสังเคราะห์สีขาว ตู้แขวนปิดผิวเมลามีน และสุขภัณฑ์มาตรฐานแบรนด์ KOHLER + GROHE

พร้อมใช้ชีวิตบนที่ดินผืนประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร พรั่งพร้อมและครบครันด้วย Cosmopolitan Community สิ่งอำนวยความสะดวก สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ในราคาเริ่มต้นที่ 4.19 ล้าน* รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก  https://bit.ly/2nHSHmd

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.apthai.com